“เพื่อนยืมเงิน”
เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร หลายครั้งเพราะรู้สึกสนิทกันมาก ๆ และเพื่อนเดือดร้อนจริง ๆ ถึงเลือกมายืมเงินเรา แต่ความเชื่อใจอย่างเดียวมันไม่พอ เพราะหลายครั้งแค่ความเข้าใจผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ทำให้การยืมเงินที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร กลายเป็นผิดใจจนเสียเพื่อนมานักต่อนักแล้ว ดังนั้น มาลองดูกันหน่อยว่าถ้า “เพื่อนยืมเงิน” เราควรให้ยืมแบบไหน ถึงจะไม่เสียทั้งเงินและเพื่อนไปตลอดกาล
เรามีสิทธิถามเหตุผล เพื่อตัดสินใจ อย่าเขินอาย
คนทุกคนสามารถมีปัญหาทางการเงินหรือเรื่องจำเป็นต้องใช้เงินจนไม่สามารถบริหารเงินตัวเองทันกันได้ทั้งนั้น ก่อนจะให้เพื่อนยืมเงิน เรามีสิทธิถามว่าเพื่อนต้องการยืมเงินก้อนนี้ไปทำอะไร นอกจากจะได้รู้ต้นตอของปัญหาแล้ว เราก็มีสิทธิตัดสินใจจากเหตุผลและความจำเป็นนั้นของเพื่อน รวมถึงประเมินความเสี่ยงด้วย
ถ้าเพื่อนบอกว่าต้องใช้เงินด่วนเพราะคนที่บ้านประสบอุบัติเหตุแล้วเงินเดือนเพื่อนยังไม่ออก แบบนี้เราก็จะเข้าใจได้ว่าเรื่องนี้จำเป็นและเร่งด่วน รวมถึงถ้าเงินเดือนเพื่อนออกเพื่อนก็มีแนวโน้มจะนำมาใช้คืน
แต่หากเหตุผลเป็นการเอาเงินไปหมุน หรือโปะหนี้เก่า เราก็ต้องประเมินว่าเราพร้อมเสี่ยงมั้ย? หรือควรแนะนำให้เพื่อนไปเจรจากับสถาบันทางการเงินหรือเจ้าหนี้มากกว่าจะยืมหนี้ใหม่ใช้หนี้เก่าไปไม่รู้จบ
มีหลักฐานให้ชัด เพื่อมิตรภาพที่ชัดเจน
การที่เราตัดสินใจให้เพื่อนยืมเงิน หมายความว่าเราก็เชื่อใจเพื่อนและมิตรภาพระหว่างเรากับเพื่อนแล้ว แต่หลายครั้งที่การยืมเงินกันระหว่างเพื่อนต้องพังลงเพราะมีฝ่ายหนึ่งไว้ใจ แต่อีกฝ่ายทำลายความไว้ใจลงจนย่อยยับ ดังนั้นทางที่ดีที่สุด เราควรมีหลักฐานการให้ยืมที่ชัดเจน
เพื่อนที่มายืมเรา ถ้าเคารพและให้เกียรติความไว้ใจครั้งนี้ ย่อมต้องเข้าใจเราและไม่คิดเล็กคิดน้อยแน่นอน ที่สำคัญถ้าคืนถูกต้องตามเวลา การมีหลักฐานก็ไม่มีฝ่ายไหนเสียหายทั้งนั้น โดยการมีหลักฐานไม่จำเป็นต้องถึงขั้นร่างสัญญาอย่างเป็นทางการ แค่พิมพ์คุยกันทางไลน์ แชทเฟซบุ๊ก หรือเมสเสจให้เป็นลายลักษณ์อักษรก็สามารถใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาลได้แล้ว (แม้เราจะไม่ได้คิดจะใช้จริง ๆ ก็เถอะ)
กำหนดวันคืนให้ชัด จะได้ไม่ผิดใจกัน
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการให้ “เพื่อนยืมเงิน” คือการถามเพื่อนให้ชัด ๆ ว่าเพื่อนจะคืนวันไหน เวลาไหน เพราะบางทีการใช้สัญญาใจโดยเราคิดไปเองว่าเพื่อนจะรู้ว่าต้องคืนวันไหน แต่เพื่อนดันไม่รู้ หรือคิดไม่ตรงกับเราก็ทำให้ผิดใจ จนเสียเพื่อนได้เหมือนกัน
ทางที่ดีที่สุดจึงควรถามตั้งแต่ก่อนยื่นเงินให้ เราเองก็จะได้ตัดสินใจถูกว่าเราควรจะให้ยืมดีไหม เราต้องรีบใช้หรือเปล่า หรือถ้าเพื่อนบอกวันคืนเงินมา แล้วเราคิดว่าช้าไป จะได้ถามให้รู้เรื่องตั้งแต่แรกว่าทยอยคืนได้ไหม แต่สำคัญที่สุดคือพูดให้ชัดเจนและส่ง “วันกำหนดคืน”เป็นลายลักษณ์อักษรเก็บไว้ด้วย จะได้ไม่จำผิดทั้งสองฝ่าย
เงินของเรา เรามีสิทธิทวงถาม ห้ามเกรงใจ
ความเกรงใจใช้ได้กับหลายโอกาส แต่กับการทวงเงินจากเพื่อนที่ยืมเราไป เราไม่ควรเกรงใจใด ๆ ทั้งสิ้น การทวงถามอย่างสุภาพและตรงไปตรงมาเป็นสิทธิที่เราทำได้เป็นเรื่องปกติ เพราะบางครั้งเพื่อนอาจลืมจริง ๆ และถ้าเรามัวแต่หวังให้เพื่อนสำนึกได้เอง เราเองก็อาจจะเสียความรู้สึกไปไกลแล้ว
เมื่อถึงกำหนดคืนเงิน แต่เพื่อนยังเงียบ ๆ อยู่ เราก็ควรโทรไปถามว่าเพื่อนโอเคมั้ย สะดวกคืนหรือยัง อย่างน้อยที่สุด ถ้าเราจะโดนเชิดเงินหนี โดนเพื่อนทำลายมิตรภาพและความไว้ใจ เราก็จะได้มั่นใจแน่นอนว่าเราทำทุกอย่างสุดความสามารถและไม่ได้คิดไปเอง แต่เพื่อนเองต่างหากที่เป็นฝ่ายผิดสัญญาอย่างจงใจ
พูดให้เคลียร์เรื่องสถานะทางการเงินของเรา
บางครั้งการที่เพื่อนบางคนเลือกยืมเงินเรา เพราะเขาคิดว่าเราดูมีสถานะทางการเงินพร้อมหรือไม่เดือดร้อน เราจึงควรชี้แจงกับเพื่อนให้ชัดว่าที่เราให้ยืมเพราะเห็นว่าเพื่อนมีปัญหาเดือดร้อนจริง ๆ และเพราะเห็นแก่ความเป็นเพื่อน แต่ไม่ได้แปลว่าเรามีเหลือเฟือจนโปรยทิ้งโปรยขว้างหรือจะให้ใครมาหยิบยืมเท่าไหร่ก็ได้
การพูดให้ชัดเจนจะยิ่งทำให้เพื่อนเข้าใจว่า เพื่อนไม่ควรมาหยิบยืมบ่อย ๆ หากมีปัญหาทางการเงินหนักจริง ๆ ก็ควรหาทางแก้ไข แต่ไม่ควรให้เพื่อนเข้าใจว่าเราจะให้เงินเพื่อนทุกครั้งที่เพื่อนต้องการ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเราเองที่ทำให้เพื่อนไม่รู้จักจัดระเบียบทางการเงิน
ก่อนให้ “เพื่อนยืมเงิน” BEAUTY HUNTER เชื่อว่าก็เพราะสาว ๆ อย่างเรารักและไว้ใจทั้งนั้น แต่บางครั้งความรักและไว้ใจก็อาจทำให้เราเจ็บปวดและผิดหวัง ดังนั้นถ้าไม่อยากเสียทั้งเงินและเพื่อนก็ลองเอา 5 ทริคนี้ไปใช้ รับรองสบายใจขึ้นทั้งสองฝ่าย