X

เช็กด่วน! พุงของคุณเป็นแบบไหน? บอก ‘วิธีลดพุง’ แบบง่ายเวอร์!

Inspiration 
May 24,2021
x Wonglada Chanklin
ลดพุง

‘วิธีลดพุง’

สาว ๆ รู้ไหมคะว่ากว่าจะได้พุงป่อง ๆ มาอยู่บนหน้าท้องเราไม่ใช่เรื่องง่าย! บอกเลยว่าไม่ใช่แค่กินจุ กินหนัก กินดึกเท่านั้น แต่ต้นเหตุของพุงน้อย ๆ ยังมีอะไรอีกมาก ว่าแล้วก็มาเช็กกันหน่อยดีกว่าว่า “พุงของเราเป็นแบบไหน?” ไม่ว่าจะพุงป่อง พุงยื่น พุงสามชั้น หรือปัญหาพุงทั้งหลาย Beauty Hunter มีคำตอบมาให้ พร้อม วิธีลดพุง ในแต่ละแบบที่บอกเลยว่าเข้าใจง่าย และทำตามได้แน่นอนจ้าาา


ทำความรู้จักพุงแบบที่ 1

“พุงหมาน้อย (The Little Pooch)”

วิธีลดพุง

มีลักษณะคือพุงช่วงล่างห้อย แต่พุงด้านบนแทบจะแบนราบ มักเกิดกับคนรูปร่างผอมแต่มีพุง เกิดจากการรับประทานอาหารเดิมๆ ซ้ำๆ จนทำให้ไขมันสะสมได้โดยไม่รู้ตัว แถมออกกำลังกายผิดวิธีที่ทำให้กล้ามเนื้อดันไขมันออกมา อีกทั้งยังกินขนมหวานหรือกินแป้งขัดสี เช่น ข้าว ขนมปัง และกินอาหารที่มีน้ำตาลมากเกินไป แถมยังใช้ชีวิตแบบนั่ง ๆ นอน ๆ ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายนั่นเอง

วิธีลดพุงประเภทนี้ที่ถูกต้อง

  • ลดการกินคาร์โบไฮเดรต แต่กินอาหารที่มีกากใย เช่น ผักใบเขียว ธัญพืชต่าง ๆ ให้มากขึ้น จะช่วยลดการบวมของหน้าท้อง และระบบย่อยอาหารจะดีขึ้น
  • ออกกำลังกายให้มากขึ้น เปลี่ยนจากการซิทอัพเป็นท่าแพลงกิ้ง วิดพื้น ออกกำลังกายช่วงแขน บ่า ไหล่
  • ลดการดื่มแอลกอฮอล์

 

ทำความรู้จักพุงแบบที่ 2

“พุงเป็นชั้น (Spare Tyre Tummy)”

วิธีลดพุง

ก็เรานั้นมันพุงเป็นชั้น~ แฮ่!! เจ้าพุงยอดฮิตของสายกินที่มักจะมีลักษณะชั้นไขมันซ้อนเป็นชั้น ๆ และมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน เกิดจากพฤติกรรมการกินอาหารที่มีความหวานหรือจัดเต็มทั้งข้าว แป้ง ขนมปัง ขนมหวานต่าง ๆ มากเกินไป  มักพบในคนที่ขาดการออกกำลังกาย ขยับตัวน้อย นั่งติดเก้าอี้นาน ๆ เป็นพุงที่เกิดขึ้นได้ง่ายแต่ก็ลดได้ง่ายที่สุดในบรรดาพุงต่าง ๆ เช่นกัน

วิธีลดพุงประเภทนี้ที่ถูกต้อง

  • ลดการกินคาร์โบไฮเดรตหรือลดแป้ง ลดน้ำตาล ให้มากเท่าสุดเท่าที่จะทำได้
  • เน้นการกินอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น เนื้อปลา ผัก และผลไม้(ที่มีน้ำตาลน้อย)
  • ลดหรืองดแอลกอฮอล์ ของหวาน ของมัน และของทอด

 

ทำความรู้จักพุงแบบที่ 3

“พุงเครียด (Stress Tummy)”

วิธีลดพุง

หากลองจับ ๆ กด ๆ ที่พุงของเราดู แล้วรู้สึกว่าพุงมีลักษณะแข็ง ๆ ตั้งแต่กระบังลมไปจนถึงสะดือ มีอาการหน้าท้องบวมอืดก็ให้สันนิษฐานได้เลยว่า “พุงเครียด (Stress Tummy)” มาเยือนคุณแล้วล่ะ! เพราะเมื่อเกิดความเครียดขึ้น ร่างกายก็จะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (cortisol) ซึ่งจะทำให้ร่างกายผลิตไขมันขึ้นมาที่บริเวณหน้าท้องโดนอัตโนมัติ นอกจากนี้เวลาที่เราเครียดมาก ๆ พุงแบบนี้ก็จะเกิดขึ้นมาจากการกินอาหารไม่ตรงเวลา กินอาหารขยะมากเกินไป รวมถึงการดื่มชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากไปก็ได้เช่นกัน และพุงแบบนี้อาจเป็นสัญญาณของ โรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome) ทำให้เกิดอาการปวดท้อง จุกเสียดแน่นท้องบ่อย ๆ จบทำให้ระบบขับถ่ายมีปัญหาได้ในที่สุด อันตรายมาก!

วิธีลดพุงประเภทนี้ที่ถูกต้อง

  • ปรับเวลานอนให้เร็วขึ้น และควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอในแต่ละวัน เพราะถ้าเกิดอาการเครียดจนนอนไม่หลับ ระบบเผาพลาญจะทำงานไม่เป็นปกติ จนก่อให้เกิดการสะสมของไขมันมากขึ้นไปอีก
  • หากิจกรรมคลายเครียด เช่น ไปนวด ไปสปา หาหนังสนุก ๆ ดู
  • ออกกำลังกายประเภท โยคะ พิลาทีส เพื่อคลายความเครียดลง และกระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกายให้มากขึ้น

 

ทำความรู้จักพุงแบบที่ 4

“พุงป่อง (Bloated Tummy)”

ลดพุง

พุงประเภทนี้จะมีลักษณะแบนราบในตอนเช้าและบวมอืดในตอนเย็น กินอะไรนิดหน่อยก็พร้อมจะป่องออกมาทันที ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากการรับประทานอาหารประเภทแป้ง พิซซ่า ขนมปัง เค้ก นม เนย ชีส มากเกินไป จนทำให้เกิดแก๊สในกระเพราะอาหาร อาหารไม่ย่อย หรือที่เรียกว่าท้องอืด หรือบางทีก็อาจเกิดจากการแพ้อาหาร ที่ทำให้ส่วนของลำไส้ทำงานไม่เต็มที่ เนื่องจากกินอาหารไม่ดีเข้าไปเป็นประจำ ถึงแม้ว่าพุงแบบนี้จะไม่ค่อยอันตรายเท่าแบบอื่น ๆ แต่ก็ไม่ควรมองข้ามนะ

วิธีลดพุงประเภทนี้ที่ถูกต้อง

  • ดื่มน้ำบ่อย ๆ เน้นกินอาหารที่ย่อยง่ายหรือมีกากใยให้มากขึ้น จะช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ดี
  • รับประทานให้ตรงเวลา งดกินมื้อดึก
  • กินแล้วอย่าเพิ่งนอน! หลังจากกินอาหารจนอิ่มควรเดินย่อยสักพักเพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้เต็มที่นั่นเอง

 

ทำความรู้จักพุงแบบที่ 5

“พุงคนท้อง (Mummy Tummy)”

ลดพุง

พุงแบบนี้มักจะพบในคุณแม่ลูกอ่อนที่เพิ่งผ่านการคลอดลูกมาได้ไม่นาน หรือที่เรียกว่า มดลูกหย่อน หรือ มดลูกยังไม่เข้าอู่ ซึ่งปกติแล้วต้องใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 6 สัปดาห์ขึ้นไป กว่าที่มดลูกจะลดขนาดลงและกลับเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนเดิม ช่วงนี้คุณแม่อย่าเพิ่งกังวลกับรูปร่างมากเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดอาการเครียดได้น้า

วิธีลดพุงประเภทนี้ที่ถูกต้อง

  • เน้นออกกำลังกายเบา ๆ ประเภทสร้างความแข็งแรงกล้ามเนื้อท้องช่วงล่างก่อนเข้านอน
  • เน้นกินอาหารประเภทไขมันดี เช่น ถั่ว น้ำมันมะกอก และน้ำมันตับปลา เพื่อเพิ่มฮอร์โมนเผาผลาญไขมัน

ข้อมูลจาก phanomsarakhamhospital


BeauterHunter มีอีกหลายบทความที่น่าสนใจ ตามไปอ่านต่อกันเลยค่ะ

นอกจาก Fashion, Skincare สาว ๆ ที่ชอบ Content เกี่ยวกับ Lifestyle เรามีมานำเสนอนะคะ

Advertisement
Wonglada Chanklin
Advertisement

Advertisement