เริ่มที่เรา! 5 วิธีคิดรีเฟรชตัวเองให้มีความสุข เพราะสุขอยู่ที่เราไม่ใช่ใคร

ผู้หญฺิงตัวเล็ก ๆ อย่างเราเติบโตมาในยุคที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน จะเรียนหรือทำงานเราก็ล้วนแต่ต้องเป็นที่หนึ่ง เพราะเราเชื่อว่าถ้าเราลำบากวันนี้ อดทนวันนี้ เราจะมีชีวิตที่ดีรอเราอยู่ในวันข้างหน้า แต่หลายครั้งที่เราก็นั่งถามตัวเองลำพังว่า “ชีวิตฉันมีความสุขหรือเปล่านะ ?” แล้วความสุขจริง ๆ มันคืออะไรกันแน่ มันอาจจะเป็นการลำบากวันนี้เพื่อความสำเร็จวันข้างหน้า หรือจริง ๆ นั่นไม่ใช่ความสุข ? อย่ามัวหลง งง กลุ้ม วันนี้เราอยากให้ทุกคนสูดหายใจลึก ๆ แล้วมาซึมซาบ 5 ความจริงเกี่ยวกับความสุขเพื่อจะมีความสุขไปด้วยกัน ความสุขมีได้เลยไม่ต้องรอ เราตื่นขึ้นมาในแต่ละเช้า แล้วคาดหวังว่าวันนี้ฉันควรจะมีความสุข แล้วเราก็ปล่อยเวลาผ่านเลยไป พร้อมกับสงสัยว่าทำไมเราถึงไม่มีความสุขสักทีนะ ? นั่นเพราะเราหวังว่าเราจะมีความสุขโดยไม่รู้ความจริงที่ว่า “ความสุขมีได้เลยไม่ต้องรอ” แทนที่เราจะเฝ้ารอว่าจะมีใครหรืออะไรมาทำให้เรามีความสุข ลองเปลี่ยนเป็นการตื่นเช้าขึ้นมา แล้วเขียนลงกระดาษเลยว่าความสุข 3 อย่างของวันนี้ของเรามีอะไรบ้าง เช่น ถ้าฉันได้กินส้มตำปูม้าร้านโปรดฉันก็มีความสุขแล้ว ถ้าฉันได้ใช้น้ำหอมกลิ่นที่ชอบฉันก็มีความสุขสุด ๆ แล้ว และถ้าฉันได้ดูซีรีส์เกาหลีก่อนนอนสัก 3 ตอนฉันจะความสุขที่สุดเลย เมื่อเขียนแล้ว เราจะเห็นว่าวันนี้ความสุขของเราคือสามสิ่งนี้แหละ และเราไม่ต้องรอให้ความสุขเดินมาหา แต่เรามุ่งหน้าตรงหาความสุขที่เราตั้งไว้ได้เลย! ความสุขคือเรื่องของเรา ไม่ใช่คนอื่น “ถ้าปีใหม่นี้ฉันได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ฉันคงมีความสุขน่าดู”, […]

ใครว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้? “4 วิธีเปย์เพื่อความสุข”ที่สาว ๆ ต้องกรี๊ด

“เงินซื้อความสุขไม่ได้” สาว ๆ ทั้งหลายคงเคยได้ยินคำนี้มาจนหูชา แต่วันนี้ BEAUTY HUNTER อยากจะบอกว่ามันก็ไม่จริงเสมอไปหรอกนะคะคุณขา เพราะถ้ารู้จักใช้ให้ถูกทางอะไรในชีวิตสาว ๆ สุดบอบบางอย่างเราก็แปรเป็นความสุขได้ทั้งนั้น และเงินก็เช่นกัน ถ้าซิสคนไหนยังเด๋อ ๆ งง ๆ ว่าเงินจะซื้อความสุขให้เราได้ยังไง? เราจะได้รู้กันก็วันนี้แหละค่ะซิส เปย์เงินเพื่อซื้อเวลา ใครว่าเงินซื้อเวลาไม่ได้คะ? ถ้าเราพอมีเงินเราสามารถซื้อเวลาให้ตัวเองได้แน่ ๆ ค่ะซิส ลองนึกง่าย ๆ ว่าถ้าวันหนึ่งเราต้องนั่งรถเมล์จากบ้านย่านชานเมืองเพื่อมุ่งสู่ใจกลางสยามแหล่งฮอต เราอาจต้องใช้เวลามากถึง 2-3 ชั่วโมง ในขณะที่ถ้าเราพอมีเงินเราก็อาจจะนั่งแท็กซี่แล้วต่อรถไฟฟ้าประหยัดเวลาได้อีกเป็นชั่วโมง ๆ เอาเวลาที่เหลือไปช็ออปิ้งสบายใจ หรือถ้าให้ง่ายไปกว่านั้นลองนึกถึงการนั่งรถไฟฟรีไปเชียงใหม่กับนั่งเครื่องปรู๊ดเดียวถึงสิคะซิส เห็นไหมคะว่าเงินซื้อเวลาที่เราจะมีความสุขเพิ่มขึ้นได้เห็น ๆ เปย์เงินซื้อประสบการณ์ จินตนาการถึงการได้ใช้เงินซื้อตั๋วเครื่องบิน จองโฮสเทล แพลนทริปไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศดูสิ เราได้อะไรใหม่ ๆ ทั้งวัฒนธรรม ภาษา อาหารที่ไม่เคยกิน ผู้คนที่ไม่เคยพบแล้วมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน เงินซื้อสิ่งเหล่านี้ให้เราได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยค่ะคุณขา ถึงเราจะไม่ได้สิ่งของเป็นชิ้นเป็นอันเหมือนการเปย์ผู้ เอ้ย เปย์ซื้อกระเป๋ารองเท้า แต่ความทรงจำครั้งเมื่อเรามีความสุขจะหล่อเลี้ยงเราให้มีความสุขได้ตลอดเวลา ที่สำคัญประสบการณ์ที่สาว ๆ อย่างเราได้ยังเอาไปต่อยอดอะไรได้อีกหลายต่อหลายอย่างในชีวิตแน่นอนค่ะซิส เปย์เงินเพื่อคนที่เรารัก ไม่ต้องยกตัวอย่างหรืองานวิจัยอะไรให้มันวุ่นวาย […]

ไม่เศร้าแล้วนะ “4 วิธีมีความสุขขึ้น” ทำตามนี้วิทยาศาสร์บอกว่าสุขใจแน่นอน

“มีความสุข” บางทีเราก็เศร้า บางที่เราก็เหงา บางทีเราก็หงอย หาหนทางที่จะมีความสุขมากขึ้นเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกกับเขาสักที หรือบางที อ่านหนังสือ How to ต่าง ๆ ก็ไม่รู้ว่าทำตามนั้นแล้วจะเวิร์คจริงอย่างคนอื่นเขาไหม วันนี้ BEAUTY HUNTER เลยอยากกระซิบบอกสาว ๆ ว่า ไม่เอาค่ะซิส ไม่เศร้าแล้วนะ นี่คือ 5 วิธีที่เขาศึกษากันมาแล้วว่าทำให้เรามีความสุขขึ้นได้จริง ๆ 1. ขอบคุณตัวเองในแต่ละอาทิตย์ เราอาจจะเคยได้ยินคำบอกที่ว่าให้ขอบคุณสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตวันละครั้ง เช่น วันนี้ขอบคุณที่ฉันตื่นเช้ามาแต่งหน้าให้สวยกว่าทุกวันได้ เย็นนี้ขอบคุณที่ฉันได้กินสลัดเจ๋ง ๆ อร่อยดี มีประโยชน์ด้วย ใช่ นั่นแหละที่มันดีงาม การที่เราฝึกสมองให้ขอบคุณสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นบวกจะทำให้รู้สึกว่าชีวิตเรามีสิ่งดี ๆ อยู่เหมือนกัน และนั่นจะเพิ่มปริมาณความสุขให้กับเราได้ โดยการศึกษาพบว่าปริมาณที่ดีที่สุดคือทำอาทิตย์หรือหนึ่งถึงสองครั้งก็พอ ไม่ต้องถึงขนาดทำกันทุกวันจนไม่รู้จะขอบคุณอะไรนักหนา 2. เชื่อมโยงกิจวัตรประจำวันเข้ากับสิ่งดี ๆ งานวิจัยพบว่ากิจวัตรประจำวันที่เราทำแต่ละวันเกิดขึ้นจากการทำซ้ำ เราทำสิ่งนั้นโดยอัตโนมัติถ้าเราทำมันทุก ๆ วัน ดังนั้นเราลองเชื่อมโยงการแปรงฟันตอนเช้าเข้ากับการนึกถึงสิ่งดี ๆ ในชีวิต […]

ยิ่งโต “ความสุข” ยิ่งน้อยลง? จริงไม่จริงอยู่ที่ใคร ถ้าไม่ใช่ที่เรา

ทำไมยิ่งโตคนเราถึงยิ่งโหยหา “ความสุข” ? ทั้งที่จริงแล้ว มันควรเป็นสิ่งที่เราหาได้ไม่ยากไม่ใช่หรอกหรอ แค่จะมีความสุข ทำไมต้องพยายามขนาดนั้น…ถ้าคุณมีความคิดแบบนี้ แสดงว่าคุณอาจจะยังผ่านชีวิตมาไม่มากพอ นั่นก็เพราะว่าพอเราโตขึ้น ชีวิตมันก็ยากขึ้นตามสเต็ป มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เป็นไปตามใจหวัง เมื่อชีวิตมาถึงจุดหนึ่ง จุดที่เราได้กลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ทั้งที่ไม่อยากเป็นก็ตาม แต่เราก็ต้องทำใจยอมรับและอยู่กับมัน เพราะเราเลี่ยงความเป็นผู้ใหญไม่ได้ จนกว่านักประดิษฐ์สักคนที่คิดค้นเครื่องหยุดเวลานั่นแหละ Photo Credit  via giphy.com “Don’t grow up it’s a trap” คำพูดจาก ‘ปีเตอร์แพน’ ที่พูดกับ ‘เวนดี้’ หญิงสาวผู้เป็นที่รักแปลเป็นภาษาไทยแบบบ้านๆ ได้ว่า “อย่าโตเลย มันคือกับดักของชีวิต ” ทำนองว่ามีชีวิตจะมีแต่อุปสรรค มีความสุขยากไปซะทุกทาง โดยเฉพาะช่วงกำลังเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัวหรือเรียกง่ายๆ ว่าวัยทำงานนี้แหละ คำถามคือโตแล้วชีวิตมันจำเป็นต้องดราม่าขนาดนั้นเลยเหรอ? ชีวิตมีก็ใช้ซะสิ จะคิดมากทำไม ทำอะไรแล้วมี “ความสุข” ก็ทำซะสิ พูดอะง่าย แต่โลกแห่งความเป็นจริงคงไม่ง่ายเบอร์นั้นหรอกค่ะคุณผู้ชม… ทำไมโตแล้วถึงมีความสุขน้อยลงล่ะ? ถ้าคุณเป็นเด็กวัยรุ่นคนนึง คุณอาจจะอ่านมันด้วยความสงสัยหรือเพื่อเตรียมตัวจะเป็นผู้ใหญ่ แต่เชื่อว่าคุณอาจจะยังไม่เข้าใจมันหรอก (จนกว่าจะเจอกับตัว) ส่วนใครที่เริ่มรู้สึกว่าเรามีความสุขกับชีวิตน้อยลง ยิ้มยากขึ้น เราอยากให้อ่านเพื่อทบทวนไปพร้อมๆ กับเรา ว่าคำตอบของประโยคคำถาม […]

ให้ทุกวันเต็มไปด้วยความสุข ด้วยการจัด “สมดุลชีวิต 4 ด้าน”

“เสื้อผ้าที่หลวมมากไปใส่แล้วก็ดูไม่ดี หรือเสื้อผ้าที่คับไปใส่แล้วก็ย่อมอึดอัด” . เราจึงควรเลือกเสื้อผ้าที่ “พอดี”  และเหมาะสมกับเรามากที่สุด เห็นด้วยมั้ยคะ ? แต่ช้าก่อนนี่ไม่ใช่การมาแนะเทคนิคการแต่งตัวแต่อย่างใด ที่เรายกตัวอย่างนี้มาก็เพื่อหวังจะให้หลายๆคน ได้เห็นภาพความสำคัญ และ ความสวยงามของสิ่งที่ “พอดี” ในชีวิตได้ชัดเจนขึ้นค่ะ .  . ความ” พอดี”  ก็คือไม่แน่น ไม่ตึงเกินไป หรือจะเรียกว่า “ทางสายกลาง” อย่างที่หลายคนอาจจะคุ้นหูกันดี จากการถูกพร่ำสอนในชั่วโมงพระพุทธศาสนาสมัยเรียนก็คงไม่ผิด แต่น้อยคนนักที่จะเข้าใจอย่างท่องแท้ แล้วนำมาปรับใช้กับชีวิตของตัวเอง ทำให้หลายคนหลงใช้ชีวิตแบบที่แน่นจนเกินไป หรือหลวมโคร่ง ขาดจุดหมาย ขาดคุณค่า เกิดเป็นความล้มเหลวในการจัดบาลานซ์ชีวิตในทุกด้านๆ อย่างเรื่องการงาน ความรัก สุขภาพ ครอบครัว เป็นต้น วันนี้ Beauty Hunter ขออาสา เป็นสไตลิสต์ส่วนตัว ชวนคุณมารู้จักการเลือกช้อปปิ้งชีวิตที่ “พอดี” สวมใส่แล้วสวยงาม มีความสุข เต็มศักยภาพด้วยการจัด “สมดุลชีวิต” ทั้ง 4 ด้านกันค่ะ : )  

Advertisement
Advertisement
Advertisement
Advertisement
Advertisement