“วิธีเป็นอินฟลูเอนเซอร์” จากประสบการณ์คนธรรมดาที่ดังขึ้นมาไม่รู้ตัว
มาเรียนรู้ 10 วิธีเป็นอินฟลูเอนเซอร์กับ Beauty Hunter ที่เธอได้อ่านแล้วจะต้องได้พัฒนาตัวเองอย่างแน่นนอน ต่อให้ยอดฟอลไม่มากไลค์ไม่ปัง แต่คุณก็มีสิทธิ์ทำได้
มาเรียนรู้ 10 วิธีเป็นอินฟลูเอนเซอร์กับ Beauty Hunter ที่เธอได้อ่านแล้วจะต้องได้พัฒนาตัวเองอย่างแน่นนอน ต่อให้ยอดฟอลไม่มากไลค์ไม่ปัง แต่คุณก็มีสิทธิ์ทำได้
เรามีชีวิตอยู่ในสังคมที่โลกออนไลน์คือลมหายใจ คือเลือดเนื้อ คือชีวิต! ใช่ค่ะ BEAUTY HUNTER ไม่ได้พูดเกินจริงไปแต่อย่างใด นี่คือยุคสมัยที่การติดต่อสื่อสารถึงเพื่อน คนในครอบครัว หรือแม้แต่การทำงาน ที่สาว ๆ อย่างเราล้วนแต่พึ่งพาโลกออนไลน์เป็นหลัก ดังนั้นมันหมดยุคที่จะออกมาบอกว่า “ไม่เห็นต้องแคร์โลกออนไลน์เลย ชีวิตจริงทำให้ดีก็พอ” แต่เราว่าทุกอย่างมันส่งผลซึ่งกันและกันทั้งนั้น เรื่องความรักก็เช่นกันถ้าเรามีหวานใจกับเขาแล้วหนึ่งคน 5 สิ่งบนโลกออนไลน์ต่อไปนี้ เลี่ยงได้ก็เลี่ยงให้ไวเลยดีกว่า ถ้าไม่อยากทำให้เขาเจ็บปวด เบื่อ เหงา เศร้า รายวันไม่หยุดหย่อน เข้าใจว่าเราอยู่ในยุคที่ความเหงามันคือความฮิป หลายครั้งเราก็เหงาๆ เศร้าๆ จริงๆ แต่บางครั้งเราก็รู้สึกว่าความเหงามันก็เท่ดีเหมือนกันนะ ไม่เป็นอะไรเลยถ้าเราเป็นสาวโสด แต่ถ้าไม่โสด มีคนคุย มีแฟน หรือกำลังจีบกันก็ตามแต่ แล้วเราโพสต์เหงา เศร้า หรือเบื่อ รายวัน คิดถึงใจผู้ชายสิคะ ? เขาจะคิดไปไกลแค่ไหนว่าเขาดีไม่พอหรือเปล่า หรือเขาบกพร่องตรงไหน เหงาอาทิตย์ละครั้งเข้าใจได้ อยากระบายก็ระบายไปไม่ผิด แต่ถ้าเล่นสวมบทบาทสาวสายเศร้าทุกวัน เราว่ามันจะไม่ดีต่อความสัมพันธ์และคนที่เรารักนะคะ สายอ่อย พักก่อนค่ะ! มันอาจไม่จำเป็นต้องถึงขั้นตั้งสเตตัสว่าเรารักกัน เป็นแฟนกัน ห่วงใยกันเพื่อประกาศให้โลกทั้งใบรับรู้ตลอดเวลา แต่ก็อย่าให้ถึงขั้นประกาศบอกใครๆ […]
โลกมันเดินทางมาถึงยุคที่เทคโนโลยีเข้าถึงทุกหย่อมหญ้าหัวระแหง ไม่ใช่แค่เด็กอย่างเรา ๆ เท่านั้นที่ติดมือถือกันแจ เดี๋ยวนี้พ่อกับแม่ของเราบางทีก็ติดมือถือหนักมากยิ่งกว่าเราเสียอีก แต่เจ้รู้ดีว่าสิ่งที่ซิสกังวลที่สุดคือการที่พ่อกับแม่ซิสเล่นโซเชียลมีเดียและเริ่มรุกรานเข้ามาในพื้นที่ของซิสซะแล้ว! หลายครั้งจึงเกิดความไม่เข้าใจกันระหว่างพ่อแม่เรากับเรา หรือบางทีก็พ่อแม่เรากับเฟรนด์ของเราเรา เอ้า! ดังนั้นเชิญเคลียร์ทางให้สะดวกด้วย 5 ทริคต่อไปนี้กันเถิดจะเกิดผล ตั้งสเตตัสแจ้งเตือนภัยระดับสิบ! ซิสคงเคยเห็นเพื่อน ๆ พากันตั้งสเตตัสว่าพ่อแม่แอดเฟซบุ๊กมา อย่าเพิ่งรำคาญสเตตัสแบบนี้ไปค่ะสาว ๆ เพราะเขาทำถูกแล้ว! เราเองก็เหมือนกัน ถ้าพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่แอดมา ก็จงตั้งสเตตัสเตือนภัยเพื่อแจ้งให้เพื่อน ๆ ทราบก่อนเลยว่า พ่อแม่เราแอดมาและเรากำลังจะรับท่านเป็นเฟรนด์นะ เพื่อเป็นการบอกเพื่อน ๆ ไปในตัวว่ามาคอมเมนต์เล่นได้ แต่ห้ามหยาบคายเกินขอบเขต เพราะเฟซบุ๊กเราไม่ได้เป็นอิสระอีกต่อไป แต่มีผู้ใหญ่มามองอยู่ด้วย โปรดเกรงใจกันเถอะ พลีสส ตั้งค่าเฟรนด์ลิสต์เป็นกลุ่ม ๆ เพื่อซุ่มซ่อนสเตตัสให้แนบเนียน ทันทีที่พ่อ แม่ หรือผู้ใหญ่ในวงศ์ตระกูลแอดมา ซิสห้ามรับมาเฉย ๆ ค่ะ แต่จงตั้งค่าเฟรนด์ลิสต์ไว้ด้วย โดยอาจจะตั้งลิสต์ใหม่ขึ้นมาเป็นลิสต์ครอบครัวเลย การจัดลิสต์เพื่อนนั้นมีประโยชน์มาก เพราะเมื่อซิสอยากตั้งสเตตัสแบบที่ไม่อยากให้ครอบครัวเห็น เช่น อกหักเลิกกับแฟนแล้วฟูมฟายกลัวแม่ดุ หรือออกอาการบ้าผู้ชายจนกลัวว่าพ่อจะอาย ก็กดตั้งสเตตัสแล้วซ่อนออกจากลิสต์ครอบครัวเอาไว้ พ่อแม่ก็ไม่ต้องกังวลใจ เราเองก็ไมต้องคอยตอบคำถามให้ยุ่งยาก เริ่ดเวอร์ ตั้งค่ารีวิวแท็กก่อนขึ้นไทม์ไลน์ ปลอดภัยไว้ก่อนนะคะซิส […]
“ไม่ควรบ่นเรื่องงานลง Social Media” งานหนัก เจ้านายด่า เพื่อนร่วมงานก็นินทา อู๊ยยย!!! สารพัดปัญหาจริง ๆ มีแต่เรื่องมารุมเร้า เก็บกดอยู่ในใจจนแทบจะระเบิดออกมาแล้ว อยากจะระบายลง Facebook อัพรูปลงไอจีสตอรี่ บ่นลง Twitter ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป แต่หยุดก่อนค่ะ แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะระบายทุกอย่างลง Social Media จริง ๆ รู้หรือเปล่าคะว่ามันไม่ควร เดี๋ยวเรามาดู 5 เหตุผลทีี่ “ไม่ควรบ่นเรื่องงานลง Social Media” กันเถอะค่ะ ว่ามันมีข้อเสียอย่างไร! ดูไม่ Professional การบ่นเรื่องงานลงโซเชียลจะทำให้เธอดูไม่โปรในสายตาคนอื่น (โดยเฉพาะกับคนในที่ทำงานที่เป็น Friend กับเธอใน Facebook น่ะ!) เธอจะกลายเป็นคนขาดความมั่นใจและเรียกร้องให้คนอื่นมาเห็นใจตลอดเวลา ทีนี้เวลาคนอื่นจะมาร่วมงานกับเธอ คนพวกนั้นก็จะรู้สึกว่าเธอจะไหวไหม จะทำให้งานออกมาดีได้หรือเปล่า ต่อให้จริง ๆ แล้วเธอไหวแต่แค่บ่นไปเฉย ๆ แต่ยังไงก็ดูไม่ดีอยู่ดีล่ะ ก็ต้องระวังด้วยนะ สะท้อนความไม่อดทนของเธอเอง ลองถามตัวเองว่างานมันหนักไป หรือจริง ๆ แล้วเธอยังปรับตัวไม่ได้ […]