ขนาดรูป
สิ่งหนึ่งที่นักการตลาดหรือผู้ใช้ทั่วไปต้องสนใจ หากอยากให้คอนเทนต์หรือสเตตัสตัวเองโดดเด่นเกินใครก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง “ขนาดรูป” ที่เหมาะสม เพราะโซเชียลมีเดียดัง ๆ แต่ละแพลตฟอร์มก็มีขนาดรูปแตกต่างกันไป อยากให้เอนเกจเมนต์ปัง ๆ ยอดไลก์พุ่ง ๆ ก็ต้องเลือกขนาดรูปที่ใช่ วันนี้เราแวะเอาขนาดรูปที่ดีที่สุดของโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มมาฝากกัน จำไว้ใช้ ไม่ผิดหวังแน่นอน
Profile Photo: 400 x 400 pixels / Displays at 200 x 200 pixels (ขนาดไฟล์สูงสุด 100 KB)
Twitter เป็นโซเชียลมีเดียที่มีรูปแบบเฉพาะตัวสูง ดังนั้นขนาดรูป Profile เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยเด็ดขาด เพราะรูป Profile แทบจะเป็นกุญแจสำคัญที่คนอื่น ๆ เห็นเราบนไทม์ไลน์ที่ไหลไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นทุกครั้งที่เราทวิตเราต้องมั่นใจว่าเราได้เลือกใช้ รูป Profile ที่มีคุณภาพสูงที่สุดเพื่อให้แบรนด์ สินค้า หรือรูปที่เราต้องการมีคนจำได้มากที่สุด
Header Photo: 1500 x 500 pixels (ขนาดไฟล์สูงสุด 10 MB)
รูป Header ใน Twitter ก็เปรียบเสมือนรูป Cover ใน Facebook เราสามารถเลือกรูปสุดครีเอต หรือรูปที่สร้างความโดดเด่นให้ตัวเองหรือแบรนด์ได้เต็มทึ่ เพราะ Twitter เปิดให้ใช้รูปที่ความสะเอียดสูงเต็มพิกัด สำหรับแบรนด์ที่ต้องการให้คนจดจำ ควรเลือกรูป Header ให้สอดคล้องกับโลโก้หรือแบรนด์ของเรา
In-stream Photo: 440 x 220 pixels (ขนาดไฟล์สูงสุด 5 MB สำหรับภาพถ่ายและขนาดไฟล์ และ 3 MB สำหรับ GIF แบบเคลื่อนไหว)
ใน Twitter เวอร์ชันปัจจุบัน เราสามารถโพสต์รูปได้มากถึง 4 รูปในเวลาเดียวกัน แต่สิ่งสำคัญคืออัตราส่วน 2:1 ของภาพ ดังนั้นเราควรเลือกภาพที่สามารถแสดงออกมาในอัตราส่วนที่ Twitter กำหนด เพื่อให้คนที่เห็นรูปของเรา หรือแบรนด์ของเราจดจำได้มากที่สุด
Cover Photo: 820 x 310 pixels (ขนาดไฟล์สูงสุดและดีที่สุด คือ 100 KB)
รูป Cover บน Facebook หากน้อยกว่าขนาด 820 x 310 pixels รูปจะถูกยืดออก ดังนั้นขนาดที่เล็กที่สุดขั้นต่ำควรเป็นขนาด 399 x 150 pixels ในขณะที่บนจอสมาร์ตโฟนรูป Cover จะแสดงผลเป็นขนาด 640 x 360 และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดควรอัปโหลดไฟล์ RGB / JPG น้อยกว่า 100 KB ส่วนถ้าแบรนด์ไหนอยากใช้รูปภาพที่มีโลโก้ควรเป็นไฟล์สกุล PNG ถึงจะดีที่สุด
Profile Picture: 180 x 180 pixels
รูป Profile ในเฟซบุ๊กเป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ เพราะมันจะโผล่ไปในทุกหนทุกแห่ง ทั้งไทม์ไลน์คนอื่น (เมื่อเราอัปเดตสเตตัส) หรือเวลาเราเข้าไปคอมเมนต์ที่ไหน ดังนั้นเลือกรูปที่บ่งบอกความเป็นแบรนด์หรือตัวเราให้ดีที่สุด เพื่อสร้างภาพจำที่ดี
นอกจากรูป Cover และรูป Profile ที่เป็นเหมือนพระเอกนางเอกของงาน Facebook ยังมีการแสดงผลรูปอีกสารพัดรูปแบบ สำหรับใครที่ไม่รู้หรืออยากมั่นใจว่าขนาดรูปที่เราโพสต์ไปนั้นเป๊ะแน่ ๆ ลองดูรายละเอียดดังต่อไปนี้
Shared Image: 1200 x 630 pixels
Shared Link: 1200 x 627 pixels
Event Image: 1920 x 1080 pixels
Highlighted Image: 1200 x 717 pixels
Profile Picture: 110 x 110 pixels
Photo Size: 1080 x 1080 pixels
Video to Stories: 750 x 1334 pixels (ความยาวไม่ควรเกิน 10 วินาที)
Photo Thumbnails: 161 x 161 pixels
อย่างไรก็ตามรูปทุกรูปที่ลงใน Instagram นั้นควรดูสัดส่วนให้ได้ขนาด 1:1 เพื่อให้รูปทั้งหมดของเรานั้นแสดงผลออกมาเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสทั้งหมด ที่สำคัญพยายามอย่าใส่ตัวอักษรลงไปบนรูปภาพที่ใช้ใน Instagram เพราะรูปของเราอาจถูกจำกัดได้ เนื่องจาก Instagram ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ความสำคัญเรื่องรูปภาพมากกว่าตัวเท็กซ์
YouTube
Channel Cover Picture: 2560 x 1440 pixels (สำหรับ desktop), 1855 x 423 pixels (สำหรับ tablets), 1546 x 423 pixels (สำหรับ smartphones) และ 2560 x 1440 pixels (สำหรับ TV)
เนื่องจากเป็น YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นวีดีโอเป็นหลัก ขนาดรูปที่เหมาะสมจึงหลากหลายไปตามช่องทางการรับชมไปด้วย แต่มั่นใจได้เลยว่าขนาดรูปที่เราให้ไว้ข้างบนนั้นครอบคลุมทุกช่องทางการรับชมแน่นอน
Video Uploads: 1280 x 760 pixels (สัดส่วนวีดีโอ 16:9)
ขนาดรูป มองเผิน ๆ อาจดูเป็นเรื่องผิว ๆ ที่อยากเลือกขนาดเท่าไหร่ก็ได้ตามใจชอบ แต่จริง ๆ แล้วขนาดรูปมีผลอย่างมากต่อการจดจำ คุณภาพรูป รวมถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์และของตัวเราเอง ถ้าไม่อยากพลาดอีก ลองจดขนาดรูปเหล่านี้ไปใช้ ไม่มีผิดหวังแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก makeawebsitehub.com
