เกิดเป็นผู้หญิงแท้จริงนั้นแสนลำบาก ยิ่งพอเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายกับชีวิตทั้งทางร่างกายและจิตใจ สาว ๆ คงจะเคยได้ยินกันมาบ้างว่า ทำไมตอนคนนั้นปวดท้องเมนกินยาปรับฮอร์โมนแล้วหาย ส่วนคนนี้หน้าเป็นสิวกินยาตัวนี้แล้วก็ช่วยได้เยอะ นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องอื่น ๆ ที่ได้ยินมาจนนี่สงสัยและอยากรู้ว่ายาปรับฮอร์โมนคืออะไร หลายคนคงอยากรู้แล้วสิคะว่ายาตัวนี้มันมีที่มาที่ไปยังไง เป็นอันตรายหรือเปล่า วันนี้ Beauty Hunter ก็เลยได้ไปหาคำถามคร่าวๆ มาให้สาวๆ แล้วตรงนี้เลยค่ะ แต่ก็ขอย้ำว่า ก่อนใช้ยาทุกครั้งควรปรึกษา แพทย์ หรือ เภสัชกร ก่อนนะคะ
ยาปรับฮอร์โมนคืออะไร ?
ยาปรับฮอร์โมนเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้หญิงในหลาย ๆ เรื่องเลย ซึ่งในตัวยามีส่วนประกอบทดแทนฮอร์โมนอย่าง “เอสโตรเจน” ที่จะช่วยปรับฮอร์โมนภายในร่างกายของเราให้ทำงานเป็นปกติ นอกจากสาว ๆ หลายคนใช้ยานี้เพื่อคุมกำเนิดป้องกันไม่ให้ท้องแล้ว ยาตัวนี้ยังมีคุณสมบัติอื่นด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ช่วยปรับประจำเดือนของสาว ๆ ให้มาเป็นปกติ, ลดความมันบนใบหน้าที่จะทำให้เกิดสิวได้, ช่วยลดสิว, ช่วยลดความมันบนเส้นผม พร้อมทั้งลดความเสี่ยงการเกิดโรคหรืออาการผิดปกติอื่น ๆ ของร่างกายที่เกิดจากฮอร์โมนที่ไม่สมดุล
ซึ่งยาปรับฮอร์โมนมีหลายชนิด เรามาทำความรู้จักแต่ละชนิดกันก่อนดีกว่า
-
ยาปรับฮอร์โมน ชนิด ee20d
เป็นยาปรับฮอร์โมนที่กินแล้วไม่ทำให้อ้วนบวมน้ำ เพราะไม่ทำให้เกิดอาการบวมจากการคั่งของน้ำในร่างกาย เพราะมีดรอสไพรีโนน ที่ช่วยลดเรื่องการบวมน้ำ เหมาะกับสาวมือใหม่ที่ไม่เคยกินยาคุมมาก่อน และกลัวเรื่องอาการบวมน้ำ รวมไปถึงสาว ๆ ที่อยากลดสิวและลดผิวมันด้วย
โดยยาปรับฮอร์โมนชนิดนี้ มีจำนวนทั้งหมด 28 เม็ด เม็ดที่มีตัวยาสีชมพูอ่อน 24 เม็ด และเม็ดที่ไม่มีตัวยาสีขาวหรือเม็ดแป้งจำนวน 4 เม็ด เพื่อให้กินกันลืม
-
ยาปรับฮอร์โมน ชนิด ee30d
ตัวนี้จะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มากขึ้น มีจุดเด่นในการคุมกำเนิดทันทีตั้งแต่กินเม็ดแรกโดยไม่ต้องรอ 7 วัน กินแล้วไม่มีอาการอ้วนบวมน้ำ เพราะมีดรอสไพรีโนนอยู่ แถมยังช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือน ลดการเกิดสิว ลดความมันของผิวและผมได้อีกด้วย
โดยยาปรับฮอร์โมน ชนิดนี้ มีจำนวนทั้งหมด 21 เม็ด ไม่มีเม็ดแป้ง ต้องกินติดต่อกันทุกวัน วันละ 1 เม็ดจนหมดแผง แล้วหยุดกิน 7 วันก่อนเริ่มแผงใหม่ ห้ามลืมกินเด็ดขาดเลยนะคะ
-
ยาปรับฮอร์โมน ชนิด ee35c
ตัวนี้เน้นช่วยสาว ๆ ที่มีปัญหาเรื่องฮอร์โมนเพศชายสูงกว่าปกติ หน้าเป็นสิวผิวมันและขนดก เนื่องจากตัวยาจะช่วยยับยั้งการทำงานของฮอร์โมนเพศชาย
โดยยาปรับฮอร์โมน ee ชนิดนี้ มีจำนวนทั้งหมด 28 เม็ดต่อ 1 แผง เป็นเม็ดสีขาว ต้องกินติดต่อกันทุกวัน วันละ 1 เม็ด โดยหากต้องการคุมกำเนิดจะต้องกินยาให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ โดยต้องกินจนหมดแผงแล้วขึ้นแผงใหม่ได้เลย
รู้จักกันมาพอสมควรแล้ว ไหนเรามาดู “ประโยชน์” เต็ม ๆ ของยาปรับฮอร์โมน กันสิว่ามีอะไรบ้าง
ประโยชน์ของยาปรับฮอร์โมน
หมายเหตุ : โดยยาปรับฮอร์โมนแต่ละชนิดก็ให้ประโยชน์ที่ต่างกัน ถ้าอยากรู้ว่าแต่ละชนิดนั้นมีข้อดีอย่างไรก็ควรที่จะปรึกษา เภสัชกร หรือ อ่านฉลากที่ข้างกล่องก่อนรับประทาน
- คุมกำเนิดป้องกันการตั้งครรภ์
- ปรับให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ ควบคุมรอบเดือนได้ค่อนข้างดี
- ไม่ทำให้เกิดอาการบวมน้ำ อ้วน หรือน้ำหนักเพิ่มขึ้นที่เกิดจากการคั่งของนํ้าในร่างกาย จากดรอสไพรีโนน ที่เป็นฮอร์โมนส่วนประกอบหนึ่งในยาคุมกำเนิด
- ช่วยลดสิวได้ปานกลาง (หากมีอาการหนักควรพบแพทย์ผิวหนัง)
- ช่วยลดความมันบนใบหน้าและหนังศีรษะ
- ช่วยลดอาการขนดก ยับยั้งฮอร์โมนเพศชาย
- ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน
- ปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย
- ลดอาการภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) ที่เกิดจากฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล
การใช้ยาปรับฮอร์โมนก็มีข้อควรระวังในการใช้เช่นกัน มาดูกันว่า “ข้อควรระวัง” มีอะไรบ้าง
ข้อควรระวังและผลข้างเคียงของยาปรับฮอร์โมน ee แต่ละชนิด
เพื่อความปลอดภัยของสาวๆ ในระหว่างการใช้ยาควรสังเกตความผิดปกติ ที่อาจเกิดจาก “ผลข้างเคียงจากการใช้ยา” และหากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- ประจำเดือนมากะปริดกะปรอย
- เวียนศีรษะ, คลื่นไส้, อาเจียน
- เจ็บคัดหน้าอก
- อาเจียนเป็นเลือด
- เกิดสิว, เกิดฝ้าได้
ปล. อาการผลข้างเคียงดังกล่าวขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล บางคนอาจพบมาก พบน้อย หรือบางคนไม่มีอาการเลยก็มี
เพื่อความปลอดภัยและใช้ยาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะมีโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคหรือเปล่า เนื่องจากการศึกษาพบว่าสาว ๆ ที่ใช้ยาปรับฮอร์โมนเป็นเวลานานจะมีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม, มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก โรคหัวใจและโรคเส้นเลือดในสมองอุดตันได้ ปลอดภัยไว้ก่อนดีที่สุดค่ะ
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่สาว ๆ “เข้าใจผิดเกี่ยวกับการกินยาปรับฮอร์โมน”
รวมเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับยาปรับฮอร์โมนและยาคุมกินแล้วไม่อ้วน
-
กินยาปรับฮอร์โมนแล้วมี Sex ได้ทันที
ไม่จริงนะจ๊ะอย่างแรกสาว ๆ ต้องดูก่อนว่ายาปรับฮอร์โมนตัวที่เราใช้นั้นคุมกำเนิดได้หรือเปล่า ถ้าได้และกินวันแรกของวันที่ประจำเดือนมาก็จะสามารถคุมกำเนิดได้ทันที แต่ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนกินจะดีที่สุดค่ะ
-
เม็ดแป้งในยาปรับฮอร์โมนทำให้อ้วน
เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว ตัวเม็ดแป้งไม่ได้ทำให้อ้วนแต่ที่เราอ้วนขึ้นอาจเกิดจากผลข้างเคียงของฮอร์โมนบางตัวในยา ให้สาว ๆ ลองเปลี่ยนมากินยาปรับฮอร์โมนที่มีฮอร์โมนเอทธินิลเอสตราไดออล และดรอสไพรีโนนอย่าง ee30d ดูสิคะ เพราะมีคุณสมบัติไม่ทำให้มีอาการบวมน้ำ และไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นจากการบวมน้ำอีกด้วย
-
กินยาปรับฮอร์โมนย้อนศร แล้ว หน้าอกจะใหญ่
ถ้าใครบอกว่าลองกินย้อนศรสิแล้วหน้าอกจะตู้มขึ้นนี่ไม่จริงนะคะ! เพราะยาปรับฮอร์โมนทุกเม็ดมีฮอร์โมนเท่ากัน ไม่มีความแตกต่างในการกินเม็ดไหนก่อน-หลัง ทางที่ดีสาวๆ ควรกินตามคำแนะนำในเอกสารกำกับยา และสงสัยตรงไหนปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนจะดีที่สุดนะจ๊ะ
กินยาปรับฮอร์โมนยังไงให้ถูกต้อง ?
ยาปรับฮอร์โมนแบบ 21 เม็ด
ตัวยามักระบุเป็นวันจันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ซึ่งสาว ๆ สามารถเริ่มกินเม็ดแรกของแผงโดยเลือกให้ตรงกับวันที่กินวันนั้นก็พอ ควรกินอย่างต่อเนื่องในเวลาเดียวกันของทุกวัน คือวันละ 1 เม็ดก่อนนอน
กินไปตามลำดับของลูกศรที่ชี้ระบุไว้บนแผงไปจนยาหมดแผง เมื่อหมดแผงแล้วให้นับเว้นไปอีก 7 วัน
เพื่อให้เป็นช่วง “ปลอดฮอร์โมน” ก่อนจะกินยาต่อแผงต่อไปในวันที่ 8 จำง่าย ๆ เลยค่ะว่า ถ้าวันที่เริ่มกินเม็ดแรกของแผงเป็นวันใดของสัปดาห์ เมื่อเว้นว่างครบ 7 วันแล้ว วันที่เริ่มต้นแผงใหม่ก็จะเป็นวันเดียวกันเสมอ
ยาปรับฮอร์โมนแบบ 28 เม็ด
ในแผงยาจะมีตัวยาจริงเพียง 21 เม็ด และมีเม็ดแป้งอีก 7 เม็ด เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่กลัวจะนับวันผิด เมื่อหมดแผงแล้ววันต่อมาสามารถเริ่มแผงใหม่ได้เลยไม่ต้องมานั่งนับให้งง โดยแผงยาจะระบุเป็นตัวเลข 1-28 ให้แกะยากินตามลำดับเม็ด ซึ่งจะต่างจากแบบ 21 เม็ดตรงที่ไม่ได้กินตามวันที่ตามปฏิทิน
วิธีเช็คว่าเรากำลังทำถูกต้องไหม สามารถสังเกตได้ตามนี้
- ดูที่แผงยาว่าเม็ดที่ใช้ตรงกับวันที่กินหรือเปล่า
- ถ้าไม่ชัวร์ว่า วันก่อนตนเองกินยาไปแล้วหรือยังให้ลองดูที่แผงยา ถ้าเม็ดยาของวันนั้นหายไปก็แสดงว่ากินไปแล้ว ข้อดีของการกินยาคุมแบบ 21 เม็ดก็คือ สาว ๆ สามารถเช็คได้ว่ามีการลืมกินยาหรือเปล่า
- ใช้แอปพลิเคชั่น ตั้งนาฬิกาเตือนกินยาเพื่อกันลืม เพราะยาปรับฮอร์โมนเป็นยาที่จะต้องกินเวลาเดิมทุกวัน หากลืมกินจะทำให้ประสิทธิภาพการคุมกำเนิดจะลดลง
หากลืมกินยาต้องทำอย่างไรดี ?
- ถ้าลืมกินหรือกินไม่ตรงเวลา เมื่อนึกออกให้รีบกินทันที และวันต่อมาก็กินยาในเวลาเดิม
- ถ้าลืมกินยาเกิน 1 วัน ให้กินยาพร้อมกัน 2 เม็ดทันทีที่นึกได้ และให้กินอีก 2 เม็ดในวันต่อไป ซึ่งระหว่างนี้ ให้ใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะเริ่มกินยาแผงใหม่
- ถ้าลืมกินยาเกิน 2 วัน ให้เลิกกินยาแผงนั้นไปเลยนะคะ ถ้าลืมกินยาเกิน 2 วัน ให้เลิกกินยาแผงนั้นไปเลยนะคะ และระหว่างนี้ให้คุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น ส่วนการคุมกำเนิดด้วยยาคุมให้เริ่มกินยาแผงใหม่ในรอบเดืนอถัดไป
วิธีการเก็บรักษา
- เก็บยาไว้ในภาชนะปิดมิดชิด
- พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- พ้นจากความร้อน, แสงแดด และความชื้น
สุดท้ายแล้วก่อนซื้อยาปรับฮอร์โมนทุกครั้ง สาว ๆ ควรสังเกตอาการของตัวเองให้แน่ชัดก่อน เช่น มีอาการเหวี่ยงวีนก่อนประจำเดือนมาหรือเปล่า บวมน้ำ สิวเยอะ ขนดกไหม เพื่อที่จะได้รู้และเลือกยาปรับฮอร์โมนชนิดที่ตอบโจทย์กับตัวเองที่สุด
ซึ่งสาว ๆ สามารถเลือกได้จาก ทั้ง 3 ชนิด ee20d, ee30d หรือ ee35c ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “ยาคุมระดับฮอร์โมนต่ำ” จะช่วยลดผลข้างเคียงอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ทางที่ดีที่สุดสาวๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรใกล้บ้าน และอย่าลืมอ่านเอกสารที่อยู่ภายในกล่องให้ละเอียด เพื่อความปลอดภัยของตัวสาวๆ เองนะคะ
สำหรับสาว ๆ ที่สังเกตตัวเองแล้วยังไม่รู้ว่าตัวเองว่าเหมาะกับแบบไหน “มาร่วมค้นหาตัวตนว่าคุณเป็นฮอร์โมนแบบไหนไปพร้อมกับเรา” เพียงกดเล่นควิซสนุก ๆ นี้เลยค่าา https://www.hormonequizs.com/
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
FB Page Younglove รักเป็น ปลอดภัย
รวมรวบข้อมูลโดยทีม Beauty Hunter