“ตัวอิจฉา”
“กรี๊ดดดดดดดดดด…..”
ขอเปิดเรื่องกันด้วยเสียงกรี๊ด เอกลักษณ์สำคัญประจำตัว “นางร้าย” ในละครไทยที่หลายคนคุ้นเคยกันดี เพียงได้ยินคำว่านางร้ายเสียงกรี๊ดก็ต้องตามมาติดๆ กรี๊ดได้ กรี๊ดดี จนอดสงสัยไม่ได้ว่าตอนเค้าแคสนักแสดงต้องให้ลองกรี๊ดก่อนหรือเปล่านะ ใครเสียงดังสุดในรับบทตัวอิจฉาไปเลยอะไรอย่างงี้ แต่เดี๋ยวก่อนค่ะการจะเป็นนางร้ายมันไม่ได้มีแค่บทบาทการกรี๊ดอย่างเดียว มันมีอะไรมากกว่านั้น และนี่คือพื้นฐาน 7 ข้อสำคัญที่นางร้ายละครไทยแทบทุกเรื่องต้องมี !
.
.
1.นางร้ายต้องมีเวลาว่าง
.
.
ไม่ว่างจริงๆเป็นนางร้ายไม่ได้นะคะบอกเลย ก็แหม ! ดูสิคะ นางร้ายละครไทยส่วนใหญ่คล้ายๆจะไม่ได้ทำงานประจำกันอย่างแน่นอน ดูมีอิสรภาพทางเวลายิ่งกว่าคนทำงานฟรีแลนซ์ เพราะพวกชีสามารถใช้เวลาชีวิตส่วนใหญ่ในการไล่ตามพระเอก แทบจะ 24 ชม. ตอนเช้าไปเฝ้าที่บ้าน ตอนกลางวันรอให้พาไปทานข้าวที่ออฟฟิศ ตอนเย็นชวนไปดินเนอร์ เผลอๆตอนกลางคืนยังขอไปนอนบ้านพระเอกอีก นี่ยังไม่รวมถึงการโทรจิกตลอดเวลาอีกนะคะซิส
.
2.นางร้ายต้องจัดเต็ม
.
.
ต้องให้เต็ม ต้องให้แน่น ! นักบินอวกาศมองลงมาจากดวงจันทร์ก็ต้องรู้ว่าชั้นนี่แหละ “นางร้าย” วิธีที่ง่ายที่สุดคือทาปากให้แดงเว่อร์ มองจากไกลๆอย่างน้อย 5 กิโลเมตรต้องเห็นสีปากก่อน ที่สำคัญหุ่นต้องแซ่บน้องๆนางฟ้า Victoria Secret เสื้อผ้าก็ด้วย จะมาแต่งตัวใสๆสไตล์มินิมอล พิมฐาสไตล์อะไรนี่หลบไปก่อนค่า ต้องมั่นๆเชิดๆเปิดนั่นเปิดนี่เข้าไว้ เอาให้แตกต่างกับนางเอกให้สุดขั้ว ชุดนอนหรือชุดอยู่บ้านก็อย่าให้เหมือนมนุษย์ปถุชน ต้องกรุยกรายคล้ายใส่ไม่ได้ในชีวิตจริง
.
3.นางร้ายต้องพูดคนเดียว
.
.
ข้อนี้สำคัญมากๆค่ะ ตั้งใจฟังเลยนะคะ เพราะข้อนี้สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกบทบาทของตัวละครไทย ฝึกไว้เลยค่ะ “การพูดคนเดียว” สกิลนี้ต้องทำให้ได้ ละครจะดำเนินเรื่องจนจบบริบูรณ์ไม่ได้เลยถ้าขาดสกิลนี้จากเหล่านักแสดง อยากพูดอะไรก็พูดเลยค่ะ พูดดังๆด้วย อย่ากลัวว่าใครจะได้ยินทั้งสิ้น ไม่มีใครในเรื่องว่าคุณเป็นบ้าแน่นอน เพราะมันพูดคนเดียวกันทั้งเรื่องเลยค่า
.
4.นางร้ายต้องเป็นไบโพล่า
.
.
อารมณ์ต้องสองขั้ว เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายให้เป็นนิสัย คล้ายมีเมนส์ตลอดเวลา ตอนไหนอารมณ์ดีก็ต้องเอาให้ชัด ยิ้มหวานสดใส เกาะแขนเกาะแข้งพระเอก หอมแก้มแบบแทบจะกลืนกิน ตอนไหนอยากจะร้ายก็ต้องสุด กรี๊ดให้ดัง ดังอีก ดังอีก ดังอีก ! เอาให้คอแหก เขวี้ยงปาข้าวของรอบตัวให้เสียหายมากที่สุด คนใช้อยู่แถวนั้นไม่ได้ต้องตบให้สาแก่ใจ…..อุ๊ย พระเอกโทรมาเปลี่ยนร่างแป๊ป “พี่ประยุทธขาา ซินดี้คิดถึงพี่จังเลยค่ะ คืนนี้มารับซินดี้ไปทานข้าวนะคะ อิอิ”
.
5.นางร้ายต้องมีลูกสมุน
.
.
#ทีมนางร้าย จะสมบูรณ์แบบไปไม่ได้ถ้าขาดลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ (ซึ่งส่วนใหญ่สมัครใจช่วยเหลือด้วยอำนาจเงิน) ตัวอย่างลูกสมุนยอดนิยมของตัวอิจฉาละครไทย ประกอบไปด้วย เพื่อนสนิทของนางเองที่มีความศีลเสมอและปากแดงไม่แพ้กัน ในบางเคสปรากฏเป็นบุคคลคาแรคเตอร์ชัด อาทิ สาวอ้วนและเพศที่สาม , แก๊งค์คนใช้ช่างเม้าท์หลังครัว , เจ๊เลขาหน้าห้องพระเอก เป็นต้น
.
6.นางร้ายต้องมาก่อน
.
.
ข้อนี้แอบสงสารเค้าอยู่เหมือนกันนะคะ มาคิดเอาจริงๆใครกันแน่ที่มาก่อน ? จากการวิจัยแล้วพบว่าบทละครหลายเรื่องนั้นเหล่านางร้ายเป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิในตัวพระเอกในฐานะแฟนตอนอยู่เมืองนอก หรือ คู่หมั้นที่ครอบครัวจัดหามาให้ไว้ก่อนอยู่แล้ว พวกนางเอกใสๆแบ๊วๆนี่แหละมาทีหลัง แต่ได้ใจพระเอกไปครอง ด้ายยยยย ! นังตัวดี แล้วเราจะเห็นดีกัน /ขมึงตาแรง
.
7.นางร้ายต้องลุ้นตอนจบ
.
.
มีทางเลือกให้หลากหลายค่ะ ถ้าเป็นละครยุคเก่าหน่อย เตรียมใจไว้เลยค่ะ ไม่ “บ้า” ก็ “ตาย” ถัดมาอีกยุคอาจจะลดความรุนแรง เหลือแค่ติดคุก พิการ หรือ เสียโฉม ซึ่งทั้งหมดนี้มักเกิดจากอุบัติเหตุที่ตัวหล่อนเองตั้งใจจะทำร้ายนางเอกบุญหนา สร้างกุศลมาดี แคล้วคลาดเสมอ หรือไม่ก็มีผู้ชายมาคอยปกป้อง ส่วนยุคหลังๆซอฟท์หน่อย ตอนจบเริ่มกลับใจเป็นคนดี หนีไปบวชตลอดชีวิตบ้าง อนุโมทนาค่าแม่ชีขา
.
จะว่าไปแล้วการจะรับบทบาทเป็นนางร้ายนี่ก็ไม่ง่ายเลยนะคะ ช่างซับซ้อนในตัวเองเหลือเกิน ทั้งนี้ทั้งนั้นหากละครไทยขาดบทบาทนี้ไปก็คงไม่ครบรส ขาดสีสันไปอย่างแน่นอน ฉะนั้นก็อย่าลืมให้กำลังใจตัวร้ายกันบ้างนะคะ สนับสนุนเป็นกำลังใจให้นักแสดงที่ถ่ายทอดบทบาทกันอย่างเต็มที่ แต่อย่าเผลอทำตัวไม่ดีเหมือนพวกชีในละครละกัน ฝากไว้ให้คิสสสส <3
.