ความรักมันเป็นเรื่องสุดละเอียดอ่อน ไม่ว่าเราจะโตแค่ไหนอายุเท่าไหร่ เราก็ยังต้องหวั่นใจกับเรื่องราวความรักอยู่เสมอ ๆ โดยเฉพาะสาว ๆ อย่างเราที่อารมณ์อ่อนไหว ใครมาจีบ มาทำดีใส่ก็เป็นต้องใจอ่อนระทวย มันจะไม่มีปัญหาอะไรเลยถ้าผู้ชายที่มาจีบคนนั้นไม่มีแฟนแล้ว! จะรับมือกับผู้ชายมีคู่แต่ยังเจ้าชู้ประตูดินได้อย่างไร ? จะปล่อยให้ตัวเองเป็นมือที่สามไม่ได้ มาเตรียมรับมือกันไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ดีกว่าค่ะคุณขา
ถามความรู้สึกตัวเองให้ชัวร์ อย่ามัวลังเลอ่อนไหว
เราต้องเริ่มที่การถามใจตัวเองให้ชัดเจนก่อนเลยว่า “นี่เราชอบผู้ชายคนนี้จริง ๆ ใช่ไหม ?” ถามแค่คำถามเดียวพอก่อนค่ะ วางเรื่องเขาเจ้าชู้ไปก่อน เพราะถ้าเราไม่ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเอง เราจะจัดการอย่างอื่นให้อยู่หมัดไม่ได้เลย! ดังนั้นถามตัวเองแค่นั้นว่าเราชอบเขาแค่ไหน ชอบจริงไหม ชอบเพราะชอบจริงๆ หรือเราชอบแค่เพราะเขามีเจ้าของเราเลยรู้สึกตื่นเต้น ? แต่ถ้าคำตอบคือชอบจริงๆ ต้องชัดเจนค่ะว่าห้ามเป็นมือที่สาม ห้ามคบซ้อน ห้ามแย่งเขามา แต่ต้องให้ผู้ชายไปเลิกกับแฟนคนปัจจุบันก่อน!
สวย เชิด ไม่ต้องเป็นตัวสำรองใคร
ถ้าคำตอบคือเราชอบเขาจริง ๆ เราไม่ได้สนับสนุนให้ไปแย่งมา หรือคบซ้อนเด็ดขาด หลายคนรู้ทั้งรู้ว่าเขามีแฟน แต่ต้องแอ๊บว่าไม่รู้ เพราะอยากให้เขาอยู่ข้างเรานาน ๆ เราจะบอกว่าไม่ได้ค่ะ! เราต้องเด็ดขาดชัดเจนไปเลย ประกาศให้เขารู้ว่าอย่ามาหลอกเราเสียให้ยาก เรารู้นะว่าเขามีแฟนแล้ว ถ้าอยากคุยกับเราต้องไปเลิกกับแฟนมาก่อน เราถึงจะยอมคุยด้วย แค่นั้นแหละค่ะ สวย ๆ แพงๆ เชิดๆ ไม่ต้องเป็นตัวสำรองของใคร
ส่วนสาวคนไหนที่ยังไม่ได้เทใจให้ผู้ชายมีคู่ที่เข้ามาจีบ อย่าไปแอ๊บไม่รู้ว่าเขาไม่มีใครให้เสียเวลา บอกไปแบบคนจริงว่า “เรารู้นะว่าเธอมีแฟนแล้ว” อย่างน้อยที่สุดถ้าผู้ชายคนนั้นคิดจะเลิกกับแฟน แล้วมาจีบเราจริงจัง เขาก็จะได้รู้ว่าเขาต้องเด็ดขาดไม่จับปลาสองมือ
เราไม่ชอบคนมีแฟนแล้ว อย่าพยายามเลย!
ไม่ว่าเราจะมีใจให้เขาหรือไม่ นอกจากจะต้องบอกเขาให้ชัดเจนไปเลยว่าเรารู้ว่าเขามีแฟน อีกอย่างหนึ่งก็คือต้องบอกเขาให้ชัวร์ ๆ ไปด้วยว่า “เราไม่ชอบคนมีแฟนแล้วนะ อยากคุยเป็นเพื่อนก็ได้ แต่ถ้ามากกว่านั้นไม่ได้จริงๆ ” เพราะอะไรรู้ไหมคะ ? เพราะผู้ชายมีแฟนแล้วหลายคน เห็นเรารู้ว่าเขามีแฟนยิ่งได้ใจ ชอบมโนไปเองว่าผู้หญิงอย่างเรา อยากเป็นตัวสำรองหรือยินดีคบซ้อน กินน้ำใต้ศอก ดังนั้นอย่าปล่อยให้นางมโนไปเองแล้วหว่านเสน่ห์มั่วๆ ค่ะ รีบประกาศไปเลยว่าไม่ชอบโว้ยย และเหมือนเดิมค่ะ ถ้าจะคุยเกินกว่าเพื่อนต้องไปเลิกกับแฟนมาก่อนนะ!
รักษาระยะห่างเข้าไว้ อย่าให้ใครเอาเราไปพูดถึงแบบแย่ ๆ
ใจเขาใจเราเนอะ! ถ้าเรามีแฟนแล้วแฟนเราไปสนิทสนมกับเพื่อนผู้หญิงแบบเกินพอดี เราก็คงรู้สึกไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ ดังนั้นต่อให้เราจะประกาศไปแล้วว่าไม่ชอบคนมีแฟน ประกาศไปแล้วว่ารู้ว่าเขามีแฟน จะเป็นแค่เพื่อนกับผู้ชายสุดเจ้าชู้คนนั้น เราต้องรักษาระยะห่างเอาไว้ รู้จักวางตัวให้ดี เพื่อไม่ให้มีปัญหาและไม่ให้ใครพูดถึงเราแบบเสียหาย ๆ ได้ค่ะ อีกอย่างก็เพื่อเป็นการแสดงออกด้วยการกระทำอย่างชัดเจนถึงผู้ชายคนนั้นว่าฉันไม่เอาเธอจริงๆ อย่ามาเนียนเสียให้ยาก!
เล่าให้คนรอบตัวฟังเข้าไว้ ป้องกันการโดนใส่ร้ายภายหลัง
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเวลามีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ที่มี 2 คนขึ้นไปคือเรื่องเล่าจะไม่ได้ออกมาจากแค่ปากเราเท่านั้น นั่นแปลว่าอะไรที่เกิดขึ้น อาจไม่ได้ถูกเล่าอย่างที่เกิดขึ้นจริงเสมอไป เช่น ผู้ชายมาจีบเราก่อนเอง แต่ดันไปบอกกับแฟนตัวเองว่าเราไปอ่อยเขาซะอย่างนั้น! ดังนั้นเมื่อมีผู้ชายมีแฟนแล้วมาจีบ อย่าเก็บเรื่องราวไว้คนเดียว พยายามเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มแรกให้คนรอบตัวฟังไว้แต่เนิ่นๆ เวลามีคนที่ใส่ร้ายเราภายหลัง เราจะได้มีพยานยืนยันว่าเราบริสุทธิ์ใจ แต่ผู้ชายต่างหากที่เข้ามาวอแวเอง!
ถ้าผู้ชายที่มีแฟนแล้วมาจีบเป็นคนที่เราไม่จำเป็นต้องติดต่อสื่อสารหรือมีปฏิสัมพันธ์แบบอื่นด้วยเลย BEAUTY HUNTER ก็อยากแนะนำว่าให้เททิ้งไป บล็อกการติดต่อให้เกลี้ยง แต่ส่วนใหญ่ผู้ชายแบบนี้มักจะเป็นคนในวงที่เราต้องติดต่ออยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนในที่ทำงาน ที่เขารู้อยู่แล้วว่าเราไม่กล้าบล็อกเขาให้อันตรธานหายไป แต่เราจำเป็นต้องรับมือกับเขาอย่างรอบคอบเพื่อรักษาความสัมพันธ์ต่อไปด้วย เฮ้อ เกิดเป็นผู้หญิงสวยนี่มันยากจริงๆ ค่ะ แต่ลองเอา 5 วิธีนี้ไปใช้ก็ไม่เสียหายนะคะ
