“AHA BHA”
เคยสงสัยกันมั้ยคะว่าส่วนผสมในสกินแคร์อย่าง “AHA BHA” มันคืออะไร ทำอะไรได้บ้าง และที่สำคัญผิวแบบเราเนี่ยจะเหมาะจะใช้ AHA หรือ BHA กันแน่นะ บอกเลยว่าวันนี้คำถามพวกนั้นจะหมดไป เพราะ Beauty Hunter รวมคำตอบไว้ให้หมดแล้ว!!!
ถ้าจะให้เราบอกว่ามีสกินแคร์อะไรบ้างที่มี#AHA และ#BHA นั้น มันเยอะมากนะจ๊ะ เพราะทั้งสองตัวเป็นจัดเป็นส่วนผสมที่นิยมผสมในเครื่องสำอางหลากหลายชนิดตั้งแต่โฟมล้างหน้า, ครีมรักษาสิว, มาสก์ผลัดเซลล์ผิว หรือแม้แต่ครีมลดเลือนริ้วรอยต่างๆ ก็มีส่วนผสมของทั้ง 2 ตัวนี้อยู่ด้วย เอาง่ายๆ เลยว่าเหมือนเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เกือบทุกตัวที่เราใช้เลยแหละ เท่านั้นยังไม่พอยังช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิวด้วย เพราะพอผิวเราโดนแสงแดดบ่อยๆ เข้า ประสิทธิภาพของผิวในการผลัดเซลล์ตัวเองลดน้อยลง เราถึงต้องใช้#AHA หรือ#BHA เข้ามาช่วยในการผลัดเซลล์ผิวนั่นเอง
#AHA คืออะไร?
#AHA เป็นสารที่สกัดมาจากธรรมชาติ ซึ่งสารที่ได้จะออกมาในลักษณะกรดต่างๆ และถูกนำมาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง อย่างเช่น กรดซิตริก , กรดมัลลิก , กรดแล็กติก , กรดทาร์ทาลิก ซึ่งจะสกัดออกมาให้มีความเข้มข้นที่สูง แต่เวลาที่ผู้ผลิตเอาไปใช้ก็จะมีการกำหนดการใส่เป็น % ที่แตกต่างกันค่ะ
หน้าที่ของ#AHA
บอกเลยว่ามีหลายหน้าที่มาก แถมยังทำหน้าที่ตัวเองได้ดีมากกก ซึ่งหน้าที่หลักๆ ก็จะคือเป็นตัวช่วยผลัดหรือขจัดเซลล์ผิวเก่า (Exfoliate) ปรับสีผิวเราให้ดูสม่ำเสมอ ทำให้กระจ่างใสขึ้น, ช่วยสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว, ให้ความชุ่มชื่นกับผิว รวมถึงลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำบนใบหน้าเราด้วย
#AHA เหมาะกับใคร?
ด้วยหน้าที่หลักๆ ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิวและเสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้#AHA เหมาะกับสาวผิวแห้งที่มีปัญหาผิวขาดน้ำ, ผิวที่ถูกแดดทำร้าย โดยเน้นไปที่ Glycolic Acid เพราะสามารถทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นได้ และผิวแพ้ง่าย อย่าง Lactic Acid เพราะเป็นตัวที่อ่อนโยนที่สุดในตระกูล#AHA ค่ะ
ผลข้างเคียงจาก#AHA
#AHA ทุกตัวโดยเฉพาะตัว Glycolic Acid สามารถทำให้ผิวระคายเคืองไปจนถึงผิวลอกได้ ดังนั้นเวลาใช้ควรเริ่มจากความเข้มข้นที่น้อยก่อน (ประมาณ 5%) แล้วค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นไป และข้อที่ควรระวังอีกอย่างคือหากใช้#AHA ช่วยขจัดเซลล์ผิวในตอนเช้า ต้องตามด้วยครีมกันแดดทันที! เพราะผิวที่เพิ่งผลัดเซลล์ผิวมาใหม่ๆ จะไวต่อรังสี UV มากนะจ๊ะ
#BHA คืออะไร?
BHA ย่อมาจาก Beta Hydroxy Acid สารที่ถูกสังเคราะห์ขึ้น โดยจะออกมาในรูปแบบกรดที่เรารู้จักกันดีอย่าง Salicylic ซึ่งเป็นกรดที่มักเห็นได้ในโฟมล้างหน้า และสกินแคร์รักษาสิว ซึ่งบ้านสาวคนไหนมีพวกยาแต้มสิวหรือยาละลายสิวอุดตันอยู่ ลองหยิบมาดูสิคะว่ามีเจ้าสารตัวนี้ผสมอยู่มั้ย ถ้ามีก็แสดงว่าเรากำลังใช้ BHA ทาหน้าอยู่จ้าาา
หน้าที่ของ#BHA
#BHA จะมีการทำงานคล้ายๆ กับ#AHA อยู่บ้าง เช่น เป็นตัวช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไป และยังช่วยลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำได้ ส่วนจุดที่แตกต่างคือสามารถซึมเข้าสู่รูขุมขนได้ โดยไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน และยังช่วยปลอบประโลมผิวจากการระคายเคืองผิว ลดการอักเสบที่เกิดจากการแพ้ได้ด้วยนะคะคู๊ณณณ
#BHA เหมาะกับใคร?
ด้วยความสามารถของ#BHA ที่สามารถละลายในน้ำมันได้ ทำให้สามารถแทรกซึมเข้าไปในชั้นผิวได้ดีกว่าโดยที่ไม่ทำให้ผิวอุดตัน จึงเหมาะกับสาวๆ ที่มีปัญหาสิวทุกชนิด รูขุมขนอุดตัน หรือรูขุมขนกว้าง สาวผิวมัน ผิวเป็นสิวต้องเลิฟแน่นอนค่ะ
ผลข้างเคียงจาก#BHA
แม้ว่า Salicylic Acid จะให้ผลข้างเคียงที่น้อยกว่า#AHA เพราะมีความเข้มข้นน้อยกว่า ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่ทำให้ผิวเราระคายเคือง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีเกิดการระคายเคืองได้เลยนะคะ เพราะถ้าสาวๆ ใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ยังไงก็จำเป็นต้องตามด้วยครีมกันแดดเพื่อป้องกันรังสียูวีอยู่ดี เพราะผิวที่ถูก BHA นานๆ จะทำให้ผิวเซนสิทีฟกับรังสี UV ได้เหมือนกัน
ตอนนี้ก็รู้มั่นใจแถมแน่ใจชัวร์ๆ กันแล้วใช่มั้ยล่ะค่ะว่าควรเลือก AHA หรือ BHA ดี เพราะผิวแบบเราเลือกใช้ตัวไหนก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน แต่ที่สิ่งที่ลืมไม่ได้เลยก็คือเลือกสกินแคร์หรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมให้เหมาะถูกจริตกับสภาพผิวจริงๆ ของเรา ไม่งั้นเกิดหน้าเห่อแพ้ ลอก จนพังขึ้นมา อย่าหาว่าเราไม่เตือนนะจ๊ะ!
GIF credit: giphy