เดือนแห่งความรักกลายเป็นอีกเดือนที่ทำให้สาว ๆ อยากมีความรักจนตัวสั่น จนรู้สึกว่า “ฉันยอมทำอะไรก็ได้ ขอให้ฉันมีแฟนก็พอ” ซึ่ง BEAUTY HUNTER ก็ไม่บังอาจไปตัดสินว่านั่นเป็นวิธีคิดที่ถูกหรือวิธีคิดที่ผิด แต่บางทีการอยากมีความรักแทบขาดใจ อาจทำให้เราหลงลืมศิลปะแห่งการจีบที่ดี แล้วเผลอตัวจีบดะ จีบไม่เว้น จีบไม่คิด จนฝ่ายชายเขารำคาญได้ ดังนั้นวันนี้ BEAUTY HUNTER จึงแวะมากระซิบเตือน ๆ กันเอาไว้ว่าวิธีจีบแบบไหนที่ผู้ชายเขาส่ายหน้าหนีแน่นอน จะได้ไม่เผลอไปทำกัน
หมดยุค ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลกไปนานแล้ว
แม้เราจะพอเคยได้ยินวลีที่ว่า “ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก” มาบ้าง แต่เราก็ไม่เคยตั้งคำถามเลยสินะว่าคนคิดวลีนี้ขึ้นมา เขาคิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคไหน? ในยุคที่โลกยังไม่มีการสื่อสารการหลายช่องทางอย่างนี้ การส่งจดหมายรักไปหาทุกวันอาจดูมีความพยายามและโรแมนติกดีอยู่หรอก แต่ถ้าในยุคดิจิทัลแล้วไลน์หารัว ๆ ทักแชทเฟซบุ๊กไม่เว้น หรือติดตามตื๊อเขาไปทุกช่องทาง BEAUTY HUNTER ขอฟันธงเลยว่าผู้ชายส่ายหน้าหนีการตื๊อแบบนี้แน่นอน
แสดงความเป็นเจ้าของไม่เวิร์คเสมอไป
ก็รู้ว่านี่คือขั้นตอนการจีบ ก็รู้ว่านี่เป็นการคุย ทั้งเราและผู้ชายต่างก็ปล่อยให้มันเป็นช่วงให้การเปิดใจศึกษากันและกัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าหนุ่ม ๆ เขาจะเปิดใจ เปิดโอกาสให้เราไปแสดงความเป็นเจ้าของเขาได้แบบออกหน้าออกตาเสียหน่อย เราอาจจะรู้สึกว่ามันน่ารักดีที่จะหึง ๆ หวง ๆ งอนง้อ ใส่อารมณ์กับเขารัว ๆ แต่ BEAUTY HUNTER บอกเลยว่าหนุ่ม ๆ เขาไม่ได้อินด้วยแน่ ๆ เขาต้องการที่ว่างระหว่างกันพอสมควร (ตราบใดที่ยังไม่ได้ตกลงคบกัน) ดังนั้นก็ระวังอย่าเผลอตัวไปแสดงความเป็นเจ้าของเกินหน้าเกินตาเข้า
ใช้ความต่ำต้อยเข้าแลกความสงสาร มันไม่โอเค!
เราไม่ใช่ผู้หญิงยุคที่ต้องเอาความสงสารมาใช้แลกความรักอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นบทบาทสาวต่ำต้อย ฉันแย่กว่าเธอ ฉันคงไม่มีสิทธิ์ ให้โอกาสฉันหน่อย เพราะคุณช่างสูงส่งเหลือเกิน ให้ถอดเก็บลงกล่องยัดลงถังขยะไปได้เลยนะคะซิส การที่เอาความต่ำต้อย หรือพยายามบอกว่าตัวเองไม่คู่ควรหรอกแล้วหวังว่าจะให้เขาเห็นใจ เราว่านี่เป็นวิธีการจีบแบบดูถูกตัวเองไปหน่อย และหนุ่ม ๆ เขาอาจจะหันมามอง แต่ไม่ใช่ด้วยความรักอย่างที่เราหวังไว้แน่ ๆ บอกไว้เลย
ให้ท่าจนไม่เหลืออะไรให้เดา
BEAUTY HUNTER คิดว่าการอ่อยนิด ๆ ให้ท่าหน่อย ๆ พองามไม่ใช่เรื่องผิดบาปอะไร ตราบใดที่เรารู้จักลิมิต แต่การให้ท่า แบไต๋ พร้อมจะไปกับเขาตลอด หรือคุยอะไรก็เมนชั่นถึงแต่การเจอกัน ฉันพร้อมเจอเธอแล้วนะ ฉันว่างเพื่อเธอตลอดเวลาแน่ ๆ หรือเธอจะไปไหนฉันตามไปด้วยได้ไหม การให้ท่าเปิดเผยอย่างนี้แม้จะไม่ได้เสียหายอะไร แต่ก็ไม่เหลืออะไรให้ลุ้นหรือรู้สึกว่าน่าค้นหาเลยในสายตาหนุ่ม ๆ เขาก็จะมองเราเป็นแค่ของตาย ถามว่าอยากมาเจอไหม ก็คงอยาก แต่อาจเป็นตัวเลือกท้าย ๆ ถ้ามีหลายคนจีบเขาอยู่ (ก็เขารู้ว่าเราว่างเพื่อเขาตลอดเวลานี่นา)
เล่าแต่เรื่องของตัวเอง
หนึ่งในกระบวนการจีบคือการพูดคุย เผลอ ๆ การพูดคุยจะถือเป็นกระบวนการหลักด้วยซ้ำ ในยุคที่เราสามารถคุยกันได้ตลอดเวลาผ่านช่องทางออนไลน์ ดังนั้นศิลปะในการพูดคุยก็เป็นเรื่องสำคัญ การที่เราเล่าแต่เรื่องของตัวเองไม่หยุด ก็เป็นเรื่องที่หนุ่ม ๆ ปวดหัวไม่น้อย BEAUTY HUNTER ขอเสนอว่าคุยเรื่องตัวเองได้ แต่ก็ต้องถามเขากลับถึงเรื่องของเขาหรือประเด็นอื่น ๆ ไปเป็นระยะ ๆ แต่ถ้าจะให้ดีถ้าเราเป็นฝ่ายเข้าหาก็ถามเขา คุยเรื่องเขาให้มากเข้าไว้ เพราะยิ่งรู้เรื่องเขามาก ก็มีโอกาสรู้ว่าเขาชอบอะไรมาก หรือทำอย่างไรเขาถึงจะชอบได้มากขึ้นด้วย
เราว่ามันหมดยุคที่จะรอให้ผู้ชายมาจีบอย่างเดียวแล้ว เพียงแต่การจีบต้องเป็นไปอย่างมีศิลปะ อย่าวู่วาม อย่าทำอะไรที่เราต้องมานั่งเสียใจทีหลัง BEAUTY HUNTER หวังว่าหลังจากนี้สาว ๆ ทุกคนจะจีบหนุ่ม ๆ ได้อย่างมีชั้นเชิงมากขึ้นและไม่เผลอไปทำอะไรให้ผู้ชายเขาส่ายหน้าหนีอีก
