เวลาโลกนี้เป็นสีชมพูอะไรมันก็ดี๊ดีไปหมดนะคะโดยเฉพาะเมื่อเราเจอผู้ชายที่ถูกอกถูกใจ อยากได้เขามาคบเป็นแฟนให้รู้แล้วรู้รอด เราจึงอยากทำความรู้จักเขาให้ครบทุกซอกทุกมุมของชีวิต อยากจะชวนเขาพูดคุยทั้งวันทั้งคืนไม่หยุดหย่อน เราเข้าใจอาการนี้ทุกประการ (เพราะฉันก็เจ็บมาเยอะ ฮือ!) แต่ถือว่าขอนะคะ 5 เรื่องต่อไปนี้ขอให้ยั้งใจไว้ก่อน ห้ามถาม ห้ามสงสัย ห้ามเอ่ยปากอยากรู้ออกไปเด็ดขาดถ้าอยากคุยกันต่อยาว ๆ
การเมือง
ปัญหาโลกแตก แม้เราจะเป็นคนรุ่นใหม่สนใจการเมือง แต่ถ้าดูลาดเลาแล้วผู้ชายคนนั้นเขาไม่สนใจการเมืองอย่างเราก็อย่าไปดันทุรังชวนเขาคุยเรื่องสุดละเอียดอ่อนนี้ให้บาดหมางใจกันเปล่า ๆ แต่ถ้า โอเค เคยเห็นเขาพูดถึงเรื่องนี้อยู่บ้าง ก็ต้องระวังทิศทางลมให้ดีว่าเขาคิดเห็นแบบไหน แต่เอาเป็นว่าถ้าระยะดูใจตอนต้น เลี่ยงได้จงเลี่ยง
ศาสนา
เรื่องนี้ก็เปราะบางไม่แพ้เรื่องการเมืองเลยทีเดียวค่ะคุณขา ความเชื่อ ความศรัทธา เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ดังนั้นอย่าเพิ่งไปถามคำถามอะไรกวนใจ ไว้คบกันไปยาว ๆ ยืด ๆ แล้วค่อยเจาะลึกลงรายละเอียดก็ยังไม่สายเนอะ
ตัวเลข
อย่าเพิ่งอยากรู้ตัวเลขในชีวิตที่นอกเหนือจากวันเกิดเขาจะดีที่สุดค่ะ คำถามประเภทจบมาได้เกรดเท่าไหร่ พ่อแม่ให้เงินไปเรียนวันละแค่ไหน หรือเงินเดือนประจำมูลค่ามากน้อยยังไง มันทำให้เราดูเป็นผู้หญิงที่วัดค่าเขาด้วยตัวเลขมากกว่าความรู้สึกที่มีต่อกันและตัวตนตรงหน้า
แฟนเก่า
เรื่องชวนวงแตกอีกเรื่องก็คงหนีไม่พ้นความรักครั้งเก่า มันอาจไม่ได้ต้องห้ามขนาดนั้นถ้าถึงจุดที่เราคบกับเขาไปนาน ๆ แล้วเขาเต็มใจเล่าออกมาเอง แต่ถ้าอยู่ ๆ เริ่มคุยกันแบบหอมหวาน แล้วจะทะเล่อทะล่าถามเรื่องแฟนเก่ากันโต้ง ๆ นี่ไม่สนับสนุนอย่างแรงเลยค่ะ
จะคบกันเลยไหม
รู้ค่ะว่าชอบเขาแทบขาดใจตาย แต่ถ้าระยะเริ่มต้น เราก็คงยังบอกไม่ได้ว่าเขาจะคิดอะไรจริงจังกับเราถึงขั้นนั้นหรือเปล่า ดังนั้นปล่อยให้เวลาทำหน้าที่ของมัน การบุ่มบ่ามถามออกไป อาจกลายเป็นการคาดคั้นกึ่ง ๆ กดดัน ตอนแรกเขาโอเคอยู่ดี ๆ ก็อาจวงแตกหายหนีไปได้แบบเราไม่ทันรู้ตัว
หลาย ๆ คำถามเราไม่ได้บอกว่ามันเป็นเรื่องต้องห้ามตลอดไป เพราะบางประเด็นถ้าจะคบกันระยะยาวอาจต้องดูกันให้ลึกซึ้งด้วยซ้ำ แต่ถ้าขั้นเริ่มต้นจีบกัน คุย ๆ กัน ประเด็นละเอียดอ่อนนี้อาจต้องเลี่ยงไปก่อนเพื่อคงความสัมพันธ์เอาไว้นะคะ
GIF credit : Tumblr
