ไม่แปลกอะไรที่เราจะเติบโตมากับความคิดที่ว่าโลกนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวสวยงาม แต่เมื่อเรายิ่งอายุมากขึ้น ๆ เราจะพบว่าโลกอาจจะสวยงาม แต่มนุษย์นี่แหละที่ทำให้โลกนี้มันไม่สวยงามเอาเสียเลย แต่ถ้ายังจินตนาการไม่ออกว่าวีรกรรมเพื่อนร่วมโลกของเราจะเลวร้ายและเต็มไปด้วยด้านมืดชวนหดหู่ขนาดไหน วันนี้ BEAUTY HUNTER ขอนำเสนอ 5 หนังอิงเหตุการณ์จริงที่จะพาเราไปดูว่าจริง ๆ แล้วโลกนี้ไม่ได้สวยงามอย่างที่เราคิด
The Boy in the Striped Pajamas
https://youtu.be/9ypMp0s5Hiw
หนังที่เล่าเรื่องสงครามโดยไม่เล่าเรื่องการต่อสู้ แต่เล่าเรื่องผลกระทบที่มันพุ่งตรงมาถึงคนตัวเล็ก ๆ ที่ไม่รู้เรื่องราวความขัดแย้งด้วยเลย มันโหด มันดาร์กตรงที่เล่าเรื่องผ่านเด็กชายตัวน้อย ๆ สองคนที่ค่อย ๆ สานสัมพันธ์มิตรภาพต่อกันโดยไม่รู้เลยว่าเด็กชายคนหนึ่งมีเชื้อชาติที่สามารถควบคุมชะตากรรมและชีวิตของเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งได้ แอบใบ้นิด ๆ ว่าจบได้ดาร์กจนคอตกแน่นอน หนังจะค่อย ๆ ทำให้เราซาบซึ้งไปกับความงดงามของความเป็นเด็กอันบริสุทธิ์ ก็เชือดเราให้ตายหลังดูจบด้วยความโหดร้ายแบบมนุษย์ผู้ใหญ่
The Flowers of War
https://youtu.be/EQ7eBs6YbT8
เจ้รักหนังเรื่องนี้เป็นพิเศษและเชื่อว่าถ้าซิสได้ดูซิสก็ต้องหลงรักหนังเรื่องนี้เช่นกัน หนังเล่าถึงช่วงสงครามที่ญี่ปุ่นบุกจีน สำหรับใครที่เคยติดตามเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์อยู่บ้างจะรู้ว่าเป็นการบุกครั้งที่เหี้ยมโหดที่สุดในประวัติศาสตร์มวลมนุษยชาติก็ว่าได้ เพราะไม่ใช่บุกเปล่า ๆ แต่พวกเขาบุกเข้าไปฆ่า ข่มขืน และทรมานคนจีนจำนวนมาก หนังเรื่องนี้เล่าถึงเหตุการครั้งนั้น แต่เล่าผ่านตัวละครผู้หญิงที่แม้จะเป็นหญิงงามเมือง แต่วีรกรรมที่พวกเธอทำเพื่อปกป้องเด็กผู้หญิงผู็บริสุทธิ์นั้นช่างกล้าหาญ อย่างไรก็ตามตลอดเรื่องซิสจะได้เห็นว่าสิ่งที่มนุษย์ทำต่อกันนั้นมันช่างดาร์กจนต้องดูไปปิดตาไปจริง ๆ
Hotel Rwanda
Hotel Rwanda เป็นหนังดาร์ก ๆ ที่สร้างจากเรื่องจริงของผู้จัดการโรงแรมในประเทศรวันด้า โดยระหว่างนั้นเกิดเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้นจนเขาต้องเปิดโรงแรมให้เป็นที่หลบภัยกับคนจำนวนมาก ตลอดเรื่องซิสจะเห็นว่าความแตกต่างทางเชื้อชาติ ชาติพันธุ์และสีผิวก็กลายเป็นชนวนที่ทำให้คนลุกขึ้นมาฆ่ากัน จนล้มตายไปหลายแสนได้อย่างเลือดเย็น มนุษย์นี่ช่างซับซ้อนเกินกว่าเราจะเข้าใจจริง ๆ
First They Killed My Father
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่รู้สึกว่าเรื่องราวดาร์ก ๆ จากน้ำมือมนุษย์ดูเป็นเรื่องไกลตัว เพราะสถานการณ์เลวร้ายส่วนใหญ่เกินในยุโรป หรือประเทศใหญ่ ๆ ในเอเชีย เจ้อยากแนะนำให้ดูเรื่องนี้ เพราะเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งยิ่งใหญ๋ในประเทศเพื่อนบ้านพรมแดนติดกับเราอย่างกัมพูชา เรื่องนี้จะทำให้เราเห็นว่าความโหดร้ายอยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด และความโหดร้ายนั้นไม่เว้นแม้แต่เด็กอายุไม่ถึง 10 ขวบเลยด้วยซ้ำ
Life Is Beautiful
แม้ชื่อหนังจะดูปลอบประโลมเราว่าชีวิตนี้มันช่างสวยงาม และตลอดเรื่องตัวละครหลักก็พยายามบอกเรา (หรือจริง ๆ คือบอกลูกชายของเขา) ว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เพราะพวกเขากำลังเผชิญกับภาวะสงครามสุดเลวร้ายและคนบางเชื้อชาติถูกกีดกันและเลือกปฏิบัติอย่างโหดเหี้ยมทารุณ แต่ตอนจบอาจไม่สวยงามอย่างที่เราคิด ที่สำคัญหนังพาเราไปเห็ฯ ไปรู้สึกกับความดาร์กของสงครามได้อย่างน่าประทับใจ
หนังที่บอกเล่าความโหดร้ายและด้านมืดของความเป็นมนุษย์ทั้ง 5 เรื่องนี้ จะบอกซิสกลาย ๆ ว่าโลกมันก็มีด้านที่ไม่สวยงามอยู่บ้างเหมือนกัน เราอาจต้องเรียนรู้และเก็บมาเป็นบทเรียนว่าความขัดแย้ง และการแบ่งแยกคนจากเชื้อชาติ ศาสนา หรือสีผิว ไม่เคยส่งผลดีต่อใครเลย เจ้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือการยอมรับความหลากหลายของเพื่อนมนุษย์เข้าไว้เป็นดี