ใครว่าการ “บำรุงส้นเท้า” ไม่สำคัญ?
แม้จะเป็นส่วนเล็กๆ ในร่างกายของเรา แต่กลับได้รับหน้าที่อันหนักอึ้งในการแบกรับน้ำหนักตัวของมนุษย์เรา ไหนจะเดินไปไหนมาไหนอีกตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทำงานหนักแต่หลายคนกลับลืมใส่ใจ ลืม “บำรุงส้นเท้า” อยู่บ่อยๆ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาโดยเฉพาะปัญหาส้นเท้าแตก ปัญหารำคาญใจของใครหลายๆ คน
.
.
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมเราอายุก็ยังไม่มาก แต่ส้นเท้าแตกซะแล้ว จะบอกว่าส้นเท้าแตกไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้น แต่สาเหตุเกิดจากการดูแลเท้า (ซึ่งถูกใช้งานหนักมาก) ไม่ถูกวิธีและยังละเลยเรื่อง “บำรุงส้นเท้า” ยังไงล่ะคะ วันนี้เราเลยแวะมาบอกเคล็ดไม่ลับในการบำรุงส้นเท้าง่ายๆ ให้แก่สาวๆ ประหยัดทั้งเงิน ประหยัดทั้งเวลา ไปดูกันเลยว่ามีวิธีไหนบ้าง
.
วิธีที่ 1
.
บำรุงด้วยวาสลีน โดยทาปิโตรเลียมเจลลี่ (Petrolium jelly) ลงบริเวณส้นเท้า โดยเฉพาะจุดที่แห้งแตก จากนั้นให้ใส่ถุงเท้า ทิ้งไว้ตลอดคืน เพื่อเป็นการเติมน้ำให้ผิวกลับมาชุ่มชื่น หมดปัญหาส้นเท้าแห้งแตก และควรทำเป็นประจำสม่ำเสมอ วิธีนี้ นอกจากจะประหยัดเงินในกระเป๋าไม่ต้องเข้าสปาแล้วยังเป็นการประหยัดเวลาไปในตัวอีกด้วย เป็นการบำรุงฝ่าเท้าที่เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลามากนัก
..
วิธีที่ 2
.
สครับขัดฝ่าเท้าสไตล์ Homemade อย่างที่รู้ๆ กันว่าผิวหนังของเราจะมีเซลล์ผิวที่ตายแล้วเกาะอยู่ การสครับผิวจึงเป็นสิ่งที่สาวๆ ควรทำอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็ต้องไม่มากเกินไป เพราะจากการบำรุงอาจจะกลายเป็นการทำร้ายผิวก็ได้ ทั้งนี้ การสครับส้นเท้า ก็เพื่อให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดลอกออกไป ซึ่งส่วนของหนังที่แห้งแตกก็คือเซลล์ผิวที่ตายแล้วนั่นแหละค่ะ คราวนี้ หากสาวๆ ไม่อยากเพิ่มค่าใช้จ่ายในการซื้อสครับผิวขวดละหลายร้อยบางทีก็แพงถึงหลักพัน เราเลยนำวิธี D.I.Y. สครับขัดผิวอเนกประสงค์มาฝากกันค่ะ ในที่นี้ สามารถขัดส้นเท้าได้ด้วยนะ
ส่วนผสมประกอบไปด้วย เกลือ 1/2 ถ้วย น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันมะพร้าว 3/4 ช้อนโต๊ะ ขั้นตอนการทำก็แสนง่าย เพียงแค่เทส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน และคนให้เข้ากัน จากนั้นก็สามารถนำมาขัดผิว ขัดส้นเท้าได้แล้วค่ะ
.
Tips: สาวๆ ที่ไม่อยากส้นเท้าแตกควรหลีกเลี่ยงการยืนหรือเดินนานๆ แต่หากมีความจำเป็น เมื่อกลับมาถึงบ้านควรนำเท้าไปแช่ในน้ำอุ่นสัก 10 – 15 นาที และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการเดินด้วยเท้าเปล่าด้วยนะคะ
วิธีที่ 3
.
สปาเท้าด้วยกลิ่นลาเวนเดอร์ วิธีนี้ นอกจากจะเป็นการ “บำรุงส้นเท้า” แล้ว ยังเป็นการรีแลกซ์ร่างกายจากความเครียดได้อีกด้วย เพราะกลิ่นของลาเวนเดอร์ (Lavender) ที่ใช้เป็นน้ำมันหอมระเหยเป็นอโรมาเทอราปีถือเป็นอันดับต้นๆ ของน้ำมันหอมระเหยเลยล่ะค่ะ การแช่เท้าในน้ำอุ่นที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหย ถือเป็นการเติมความชุ่มชื่นให้ส้นเท้า และยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถบรรเทาอาการปวดของกล้ามเนื้อได้อีกด้วย ส่วนผสม ได้แก่ น้ำเปล่า น้ำมันหอยระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ เกลือ (หรือถ้าสาวๆ มีดีเกลือฝรั่งก็ใช้ได้นะคะ ) วิธีทำก็ง่ายมากค่ะ เพียงแค่ต้มน้ำเปล่า ทิ้งไว้ให้อุณภูมิลดลงสักครู่ เทน้ำอุ่นใส่ในกะละมัง จากนั้นก็ใส่น้ำมันหอยระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ลงไป 2 หยด และตามด้วยเกลือ 1/4 ถ้วย เพียงเท่านี้ ก็สามารถนำเท้าลงไปแช่ได้แล้ว เป็นได้ทั้งบำรุงเท้าและการผ่อนคลายตัวเองจากความเครียดได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก bellamumma และ Welovemaroa
.
วิธีที่ 4
.
แก้ส้นเท้าแตกเปลือกกล้วย ใครจะไปรู้ว่าสรรพคุณน้องเปลือกกล้วยจะสามารถแก้ปัญหาส้นเท้าแตกได้เป็นอย่างดี วิธีการก็ง่ายมากค่ะซิส เพียงแค่นำเปลือกกล้วยมาถูบริเวณฝ่าเท้าประมาณ 15 นาที จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด และอย่าลืมทาครีมบำรุงส้นเท้าตามด้วยนะคะ เห็นมั้ยว่าถ้าเราอยากหันมาดูแลตัวเอง โดยไม่ต้องเสียสตางค์มากมาย เพียงแค่หาอะไรใกล้ตัวมาใช้ให้เป็นประโยชน์ เท่านี้ก็ทำสวยได้ไม่เดือดร้อนเงินในบัญชีแล้วค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก bedtaledidea
วิธีที่ 5
.
ไข่ขาว ช่วยส้นเท้ากลับนุ่มดั่งเคย ไม่ต้องหาวัตถุดิบอะไรให้มันยุ่งยากมากเรื่องก็สามารถช่วยให้ส้นเท้ากลับมาเนียนนุ่มเหมือนเก่าได้แล้ว เรากำลังพูดถึงไข่ไก่อยู่นั่นเอง ไม่มีส่วนผสมอื่นอีกด้วยนะคะ วิธีการ คือ เพียงแค่นำไข่ขาวมาถูกกับฝ่าให้เป็นเนื้อโฟม จากนั้นก็นำไปทาบริเวณฝ่าเท้า ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เท่านี้เป็นอันจบขั้นตอนการบำรุงส้นเท้าด้วยไข่ขาว นอกจากจะช่วยให้ส้นเท้านุ่มขึ้นแล้วยังเป็นการทำให้ผิวเท้าไบร์ทขึ้นอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก beautyalsohealthy
