X

Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ลดหุ่นสวยแบบไม่ต้องผ่าตัด

Activities & News 
Nov 01,2024
x Pattarawan Suwannamas
Coolsculpting

Coolsculpting สลายไขมันเฉพาะจุดด้วยความเย็น ทางลัดสู่หุ่นสวย ปลอดภัย ไร้แผล✨

Coolsculpting

Coolsculpting เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุดโดยไม่ต้องผ่าตัด และต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่วิธีการนี้ยังมีคำถามที่หลายคนอาจสงสัย เช่น Coolsculpting คืออะไร ? ทำงานอย่างไร ? เจ็บหรือไม่ ? หรือไขมันจะกลับมาอีกไหม ? 

บทความนี้ Beauty Hunter จะมาช่วยไขข้อสงสัยทั้งหมด พร้อมแนะนำวิธีเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ ในการทำ Coolsculpting นะคะ

สารบัญ Coolsculpting

  • แนะนำ Coolsculpting คืออะไร ?
  • ทำไม Coolsculpting ถึงกำจัดไขมันได้ 
  • จุดเด่นของ Coolsculpting เมื่อเทียบกับวิธีอื่น
  • ใครเหมาะกับการทำ Coolsculpting  ?
  • Coolsculpting ทำบริเวณไหนได้บ้าง ?
  • Coolsculpting มีกี่หัว แต่ละหัวต่างกันอย่างไร ?
  • Coolsculpting เจ็บหรือไม่ ?
  • Coolsculpting ได้ผลชัดเจนแค่ไหน ?
  • ทำ Coolsculpting แล้วจะกลับมาอ้วนอีกไหม ?
  • อะไรคือสาเหตุที่ทำ Coolsculpting แล้วไม่ได้ผล ?
  • วิธีเช็กเครื่อง Coolsculpting ของแท้ สังเกตอย่างไร ?
  • แนะนำวิธีเลือกคลินิกทำ Coolsculpting ที่ได้มาตรฐาน

💭แนะนำ Coolsculpting คืออะไร ?

Coolsculpting คือเทคโนโลยีที่ใช้ความเย็นติดลบในการสลายเซลล์ไขมันเฉพาะจุดโดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นหนึ่งในวิธีกำจัดไขมันส่วนเกินที่ได้รับความนิยม เทคโนโลยีนี้ใช้หลักการที่เรียกว่า Cryolipolysis ซึ่งเป็นการใช้ความเย็นติดลบทำลายเซลล์ไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ได้อย่างถาวร เมื่อเซลล์ไขมันถูกแช่แข็งแล้ว เซลล์จะค่อย ๆ ตายไปตามธรรมชาติ และร่างกายจะขับเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกไปตามกระบวนการปกติ ทำให้การลดไขมันส่วนเกินด้วยวิธีนี้เป็นไปอย่างอ่อนโยน ปลอดภัย ไม่เจ็บตัวเมื่อเทียบกับวิธีกำจัดไขมันแบบอื่น ๆ

💭ทำไม Coolsculpting ถึงกำจัดไขมันได้ 

Coolsculpting จะเน้นแช่แข็งเฉพาะเซลล์ไขมันในชั้นไขมันเท่านั้น ซึ่งเซลล์ไขมันมีความพิเศษตรงที่ไวต่ออุณหภูมิต่ำมากกว่าเซลล์ชนิดอื่น ๆ ในร่างกาย

การทำงาน Coolsculpting

Coolsculpting จะดูดผิวเพื่อดึงชั้นไขมัน และปล่อยความเย็นแช่แข็งเซลล์ไขมัน

โดยการทำงานของ Coolsculpting เริ่มจากการใช้หัวเครื่องมือที่มีคุณสมบัติดูดผิวบริเวณที่ต้องการลดไขมัน เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือแขน ซึ่งหัวเครื่องนี้จะดึงชั้นไขมันเข้ามาภายใน เพื่อให้ชั้นไขมันนั้นถูกแช่แข็งด้วยอุณหภูมิ -11°C ความเย็นนี้จะทำให้เซลล์ไขมันแข็งตัวเป็นผลึกน้ำแข็งในระยะเวลาประมาณ 35 นาทีต่อจุด

หลังจากการแช่แข็งครบกำหนด ก็จะทำการนวดเพื่อกระตุ้นให้เซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็งตายลง เซลล์ไขมันที่ตายแล้วจะถูกกำจัดออกจากร่างกายผ่านกระบวนการตามธรรมชาติ ซึ่งทำให้จำนวนเซลล์ไขมันลดลงอย่างถาวรโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อหรือเซลล์รอบข้าง

💭จุดเด่นของ Coolsculpting เมื่อเทียบกับวิธีอื่น 

เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการกำจัดไขมันแบบอื่น จุดเด่นที่สำคัญของ Coolsculpting คือความปลอดภัยต่อผิวหนังชั้นนอก เนื่องจากเทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อกำจัดเซลล์ไขมันโดยไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง รวมถึงไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดผิวไหม้จากความเย็น ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในเครื่องมือเลียนแบบที่มีคุณภาพต่ำ

โดย Coolsculpting มาพร้อมกับระบบ Freeze Detect ซึ่งจะตรวจสอบอุณหภูมิของผิวหนังในระหว่างการทำงานอย่างต่อเนื่อง หากอุณหภูมิที่ผิวชั้นบนลดลงมากเกินไป เครื่องจะหยุดทำงานโดยอัตโนมัติทันที เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายต่อผิวหนัง ซึ่งระบบนี้ทำให้มั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัย ไม่เสี่ยง และไม่เคยมีรายงานกรณีผิวไหม้จากการใช้ Coolsculpting ขณะที่เครื่องมือเลียนแบบในตลาดทั่วไปอาจไม่มีระบบนี้ จึงมีความเสี่ยงสูงกว่า

💭ใครเหมาะกับการทำ Coolsculpting  ?

ผู้ที่มีปัญหาไขมันเฉพาะจุดที่ไม่สามารถกำจัดได้ด้วยการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร แต่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินในปริมาณปานกลาง ไม่ต้องการเสี่ยงกับการผ่าตัดดูดไขมัน ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน รวมถึงไม่อยากมีแผลเป็นจากการผ่าตัด เหมาะกับการสลายไขมันด้วยความเย็นวิธีนี้เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจาก Coolsculpting ไม่ต้องใช้เข็มหรือการผ่าตัดเจาะใด ๆ

คนที่มีปัญหาไขมันเฉพาะจุด

อย่างไรก็ตาม Coolsculpting ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปริมาณไขมันมากเกินไป หรือมีดัชนีมวลกาย (BMI) สูงกว่า 35 เพราะไม่ใช่วิธีการลดน้ำหนัก แต่เป็นวิธีการกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด และการกำจัดไขมันด้วยวิธีนี้ต้องใช้เวลารอให้ร่างกายกำจัดเซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็งออกไป จึงไม่ได้เห็นผล 100% ทันทีหลังทำ

💭Coolsculpting ทำบริเวณไหนได้บ้าง ?

Coolsculpting สามารถใช้ได้กับหลายบริเวณของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณที่ไขมันสะสมมาก เช่น

  • ต้นแขน
  • หน้าอก (ผู้ชาย)
  • หน้าท้อง
  • เอว (ห่วงยาง)
  • สะโพก
  • ปีกหลัง
  • ต้นขา
  • ใต้ก้น
  • หัวเข่า
  • เหนียง

แต่ละบริเวณจะต้องใช้หัว Applicator ที่ออกแบบมาเฉพาะเจาะจงกับแต่ละพื้นที่ เพื่อให้สลายไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

💭Coolsculpting มีกี่หัว แต่ละหัวต่างกันอย่างไร ?

Coolsculpting รุ่นใหม่ล่าสุดมีการพัฒนาเครื่องมือให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีหัวเครื่องทั้งหมด 5 ชนิด เป็นหัวแบบสุญญากาศ ทำให้เจ็บน้อยกว่า ใช้เวลาทำสั้นลง และได้ผลลัพธ์ที่สวยงามยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถสลายไขมันได้หลายตำแหน่งในร่างกาย ครอบคลุมเกือบทุกส่วน

หัวเครื่อง Coolsculpting

 

  • CoolAdvantage

เป็นหัวหลักที่ใช้ใน 60-70% ของเคส เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันปานกลาง ใช้ทำได้ใน 7 บริเวณหลัก ได้แก่ ท้อง เอว แขน หน้าอกผู้ชาย ปีกหลัง ขาด้านใน และใต้ก้น

  • CoolAdvantage Petite

หัวนี้ออกแบบมาเพื่อลดไขมันในบริเวณเดียวกับ CoolAdvantage แต่จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันไม่หนามาก หรือผู้ที่มีขนาดตัวเล็ก เหมาะสำหรับคนที่เคยทำ CoolAdvantage มาแล้ว และต้องการปรับรายละเอียดเพิ่มเติม

  • CoolAdvantage Plus

หัวขนาดใหญ่พิเศษ เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันจำนวนมาก ใช้สำหรับบริเวณกว้าง เช่น ท้องและเอว

  • Cool Mini

เป็นหัวขนาดเล็กที่ใช้สำหรับบริเวณเฉพาะจุด เช่น เหนียง เนื้อใต้รักแร้ (นมน้อย) เนื้อบริเวณหน้าอกผู้หญิง และเนื้อย้วยเหนือเข่า ซึ่งเป็นบริเวณที่ไขมันสะสมยากต่อการออกกำลังกาย

  • Cool Smooth Pro

หัวนี้ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับการลดไขมันบริเวณขาด้านนอกและใต้สะโพกลงมา นอกจากนี้ยังสามารถใช้สร้างกล้ามเนื้อแบบ Sixpack ได้ในบางคลินิก

 

ความพิเศษของ Coolsculpting คือหัวเครื่องที่ออกแบบมาให้หลากหลายรูปทรงและขนาด ทำให้สามารถปั้นรูปร่างของไขมันได้ตามความต้องการ โดยผู้เชี่ยวชาญจะให้คำปรึกษาและแนะนำตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการทำ Coolsculpting เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการของแต่ละคน

💭Coolsculpting เจ็บหรือไม่ ?

การทำ Coolsculpting

ในกระบวนการสลายไขมันด้วย Coolsculpting ไม่ทำให้เกิดบาดแผล ไม่ต้องใช้ยาชา หรือยาสลบ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความเจ็บในขั้นตอนระหว่างทำ เพียงแค่อาจมีอาการปวดระบมในขั้นตอนการนวดหลังจากแช่แข็งไขมัน และบางคนอาจมีอาการเขียวช้ำเกิดขึ้นหลังนวด ซึ่งขั้นตอนนี้จำเป็นต้องนวดเพื่อให้เซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็งตาย หากไม่ทำการนวด ผลลัพธ์อาจลดลงถึง 60% 

โดยอาการปวดระบมคล้ายกับการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายอย่างหนัก จะคงอยู่ประมาณ 7-10 วัน และในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก อาจมีอาการบวมและชาในบริเวณที่ทำ บางคนอาจรู้สึกคันเล็กน้อยในช่วงเดือนแรก

💭Coolsculpting ได้ผลชัดเจนแค่ไหน ?

Coolsculpting ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินและปรับรูปร่างให้กระชับขึ้นโดยใช้ความเย็น -11°C ถึง -13°C เพื่อเปลี่ยนสภาพเซลล์ไขมันให้เป็นผลึกน้ำแข็ง กระบวนการนี้จะทำให้เซลล์ไขมันตาย และถูกขับออกจากร่างกายผ่านระบบขับของเสียตามธรรมชาติ

ผลลัพธ์ Coolsculpting

Coolsculpting ทำให้สัดส่วนกระชับเล็กลง

ซึ่งมีงานวิจัยกว่า 70 ชิ้นยืนยันว่า Coolsculpting สามารถลดไขมันได้ 25-27% ต่อการทำ 1 ครั้ง และเซลล์ไขมันที่ถูกกำจัดจะไม่มีการเกิดใหม่อีก โดยผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้เมื่อผ่านไปประมาณ 1-2 เดือน และเห็นผลเต็มที่ในช่วง 3 เดือนหลังทำ

หลังการทำ Coolsculpting สัดส่วนจะเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด หากต้องการผลลัพธ์เพิ่มเติม สามารถทำซ้ำในจุดเดิมได้ โดยปกติสามารถกำจัดไขมันได้ประมาณ 60-70 CC ต่อครั้ง ทั้งนี้ ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและการดูแลตัวเองของแต่ละคนร่วมด้วย

💭ทำ Coolsculpting แล้วจะกลับมาอ้วนอีกไหม ?

แม้ว่าจะทำ Coolsculpting แล้ว แต่หากไม่ดูแลตัวเองให้ดี เช่น รับประทานอาหารเกินความต้องการของร่างกาย ก็ยังมีโอกาสกลับมาอ้วนได้ อย่างไรก็ตาม การกลับมาอ้วนจะทำได้ยากกว่าเดิม เนื่องจาก Coolsculpting ช่วยลดจำนวนเซลล์ไขมันลงอย่างถาวร

ในการลดไขมันด้วยวิธีอื่นจะเป็นการทำให้เซลล์ไขมันหดตัว มีขนาดเล็กลงเท่านั้น แต่จำนวนเซลล์ไขมันยังคงอยู่เท่าเดิม เมื่อรับประทานอาหารเกินความจำเป็น เซลล์ไขมันจะขยายตัวขึ้นได้อีก แต่สำหรับ Coolsculpting เซลล์ไขมันจะถูกกำจัดไปอย่างถาวร ทำให้แม้เซลล์ไขมันจะขยายตัวขึ้น แต่ด้วยจำนวนเซลล์ไขมันที่ลดลง สัดส่วนบริเวณนั้นจะไม่กลับไปอ้วนเท่าเดิมนั่นเอง

💭อะไรคือสาเหตุที่ทำ Coolsculpting แล้วไม่ได้ผล ? 

กรณีที่ Coolsculpting ไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง อาจเกิดได้จาก

❌ ใช้เครื่องปลอม : หากใช้เครื่อง Coolsculpting ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเป็นของเลียนแบบ ผลลัพธ์อาจไม่เป็นที่พอใจ และมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัย เช่น การเกิดผิวไหม้จากความเย็น ดังนั้น ควรตรวจสอบว่าเครื่องที่ใช้งานเป็นของแท้และคลินิกได้มาตรฐาน

❌ ปริมาณไขมันมากเกินไป : ผู้ที่มี BMI เกิน 35 หรือมีไขมันสะสมในปริมาณมากอาจไม่เห็นผลชัดเจน เนื่องจาก Coolsculpting ไม่ใช่วิธีการลดน้ำหนัก และไขมันไม่ได้หายไปทันทีหลังทำ ทำให้ผลลัพธ์ใช้เวลานานกว่าจะเห็น

TIP : Coolsculpting เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันในระดับปานกลาง (BMI < 35) หากมีไขมันสะสมมากหรือมีภาวะอ้วน ควรเริ่มด้วยวิธีลดน้ำหนักอื่นก่อน จากนั้นใช้ Coolsculpting เพื่อจัดการไขมันส่วนเกิน ช่วยปรับรูปร่างให้สวยงามและกระชับมากขึ้น จะเห็นผลได้ชัดเจนยิ่งกว่า

💭วิธีเช็กเครื่อง Coolsculpting ของแท้ สังเกตอย่างไร ?

การสังเกตว่าเครื่อง Coolsculpting เป็นของแท้หรือไม่ สามารถตรวจสอบได้จากชื่อเครื่อง โลโก้ และลักษณะภายนอกของตัวเครื่อง นอกจากนี้ ยังควรสอบถามกับเจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันว่าเครื่องที่ใช้เป็น Coolsculpting ของแท้ เนื่องจากบางสถานที่อาจโฆษณาว่าเป็นการสลายไขมันด้วยความเย็น แต่ใช้เครื่องที่ไม่ได้มาตรฐาน

วิธีเช็กเครื่อง CoolSculpting ของแท้

✅ มีชื่อเครื่องและโลโก้ ” Coolsculpting ” ติดอยู่บนตัวเครื่อง

✅ ลักษณะตัวเครื่องต้องตรงกับป้าย Banner ที่แสดงถึงแบรนด์ Coolsculpting

✅ ตรวจสอบสติกเกอร์ 4 จุด ซึ่งจะอยู่บริเวณด้านบนสุดและด้านหลังของตัวเครื่อง โดยระบุชื่อบริษัท Zeltiq Aesthetics USA ซึ่งเป็นผู้จดสิทธิบัตรเทคโนโลยีนี้

💭แนะนำวิธีเลือกคลินิกทำ Coolsculpting ที่ได้มาตรฐาน

การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานสำหรับการทำ Coolsculpting เป็นสิ่งสำคัญมาก ควรพิจารณาจากปัจจัยดังนี้

คลินิกทำ Coolsculpting

  • คลินิกต้องมีป้ายชื่อสถานพยาบาล พร้อมเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก แสดงไว้หน้าคลินิก แสดงถึงการผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน
  • เลือกคลินิกที่ตั้งอยู่ในทำเลน่าเชื่อถือและปลอดภัย เช่น ห้างสรรพสินค้า หรือ อาคารพาณิชย์
  • แพทย์และผู้เชี่ยวชาญ (Specialist) ควรมีประสบการณ์ในการทำ Coolsculpting
  • คลินิกควรใช้เครื่อง Coolsculpting ของแท้ และสามารถตรวจสอบได้
  • มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง จากแหล่งที่เป็นกลางและน่าเชื่อถือ
  • ราคา Coolsculpting สมเหตุสมผล ไม่ถูกเกินไปจนน่าสงสัย
  • มีบริการติดตามผลหลังทำอย่างต่อเนื่อง และสามารถติดต่อสอบถามได้ง่าย เช่น ผ่านทางเบอร์โทร, Line@, หรือ Facebook

💭สรุปเรื่อง CoolSculpting

Coolsculpting เป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการกำจัดไขมันเฉพาะจุดโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างและลดไขมันเฉพาะจุดที่ไม่สามารถกำจัดได้ด้วยวิธีอื่น ๆ กระบวนการทำมีความปลอดภัยและใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน ทั้งนี้ ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้เครื่อง Coolsculpting ของแท้ และปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด


Beauty Hunter มีอีกหลายบทความที่น่าสนใจ ตามไปอ่านต่อกันเลยค่ะ

ติดตามอัพเดทต่าง ๆ ได้ที่นี่เลยจ้า FB: Beauty Hunter (Thailand)

Advertisement
Pattarawan Suwannamas
Advertisement

Advertisement