อะไรที่ไม่ดี ถ้าทำไปนานๆมันก็จะติดเป็นนิสัย ยิ่งถ้าปล่อยไว้เฉยๆ ไม่สนใจ สุดท้ายบางทีมันก็ยากเกินจะแก้ไขไปซะแล้ว เหมือนกับ “นิสัยการใช้เงิน” ของหลายๆคน ที่เราเชื่อว่าพวกคุณก็อาจจะรู้ตัวดี ว่าตัวเองเริ่มประสบปัญหาประเภท “เดือนชนเดือน” , “เงินไม่พอใช้” , “เป็นหนี้บัตรเครดิต” , “ติดหนี้เพื่อน” หรือหนักสุดก็คือมีแววจะ “ล้มละลาย”
.
.
อะไรกันที่เป็นสาเหตุของปัญหาชวนละเหี่ยใจเหล่านั้น ? เลิกโทษดินโทษฟ้า หรือมีข้ออ้างสุดน่าเบื่อ เช่น “ก็เศรษฐกิจมันไม่ดี” , “ก็เงินเดือนมันน้อย” , “ก็คนอื่นเค้ามีกัน” อะไรแบบนี้สักทีเถอะ เก่ามากกกกก พูดตรงๆเลยนะทั้งหมดอะ มันเป็นเพราะ “นิสัยการใช้เงิน” แย่ๆ ของคุณเองนั่นแหละ ! ซึ่งเรากลั่นกรองมาให้แล้ว 5 นิสัย ที่คุณควรรีบโยนทิ้งไปซะ ! เลิกเถอะขอร้อง จะมีอะไรบ้าง ไปดู !
.
.
1.นิสัยรวย (เกินฐานะ)
หลายๆคนเป็นกันมาก แต่ (แกล้ง) ไม่รู้ตัว จะอะไรซะอีก นอกซะจากการใช้เงินเกินตัว กินอยู่เกินฐานะยังไงล่ะ ประเภท #ไลฟ์สไตล์ไฮโซแต่โลว์อินคัม รสนิยมยอดฮิตของ Gen Y ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราอยู่ในยุคที่สื่อมีอิทธิพลอย่างมาก ในโลกโซเชี่ยลจะเห็นเน็ตไอดอลหรือผู้มีชื่อเสียงต่างๆ ใช้ชีวิตน่าอิจฉา กินหรูอยู่สบาย เกิดเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ เช่น ต้องใช้ของแบรนด์เนม ซื้อของเเพงๆ กินร้านอาหารสวยๆ อัพรูปอวดเพื่อนใน IG จนลืมประเมินเงินในบัญชีของตัวเองไปซะสนิท ไม่เอานะคะ ! ปรับความคิดใหม่ ใช้จ่ายอย่างพอเพียง อย่าหลงติดกับดัก Social เพราะจริงๆแล้ว ภาพที่เห็นเค้าชีวิตดี๊ดีย์ บางทีก็ไม่ใช่ทั้งหมด อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของงานที่ต้องอาศัยภาพลักษณ์ หรือเป็นการสร้างตัวตนในโลกโซเชี่ยล เช่นเดียวกับที่เราพยายามทำก็ได้ จริงมั้ย ?
.
2.นิสัยมีเท่าไหร่ใช้หมด

ทำไมอ่ะคะ ? กลัวเงินหมดอายุเหรอ ถึงเก็บไว้กับตัวนานๆบ้างไม่ได้เลย ก็แหม ดูสิบางคนนะ เงินเดือนออกมาที ต้องใช้ให้หมดทันทีเช่นกัน แบบว่ายังไม่ทันจะกลางเดือนก็ต้องกินมาม่าซะแล้ว สุดท้ายก็เจอปัญหาเงินไม่พอใช้ เดือนชนเดือนแบบนี้อยู่เรื่อยไป จนติดเป็นนิสัย ทำยังไงดีล่ะ ไม่ยากเลยก็แค่ลองเก็บออมดูบ้าง จากเดิมพอเงินเดือนออกก็เอาไปใช้ให้รางวัลตัวเอง ก็ให้ลองเปลี่ยนมาคิดว่าพอเงินเดือนออกฉันจะให้รางวัลตัวเองด้วย “การออมเงิน” อย่างน้อย 10% ของรายได้แทน ทำไปเรื่อยๆค่ะ เดี๋ยวก็จะติดเป็นนิสัยเอง เมื่อไหร่ที่คุณได้เห็นตัวเลขในบัญชีเงินเก็บมันงอกเงยขึ้นเรื่อยๆ มันจะทำให้เห็นคุณค่าของเงินมากขึ้น และจะทำให้รู้จักคิดให้ถี่ถ้วนการจะใช้เงินแต่ละครั้งโดยอัตโนมัติ ถ้าไม่เชื่อ เดือนนี้ก็ลองเริ่มเลยสิ ขอท้า !
.
3.นิสัยขยันสร้างหนี้

นิสัยนี้เป็นบ่อเกิดของความล้มเหลวทางการเงินที่แท้จริงค่ะ ! เคยได้ยินกันมั้ยคะว่า “การไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ” บอกเลยว่าไม่ได้เว่อร์ ความจริงล้วนๆ พอเถอะค่ะ นิสัยที่ชอบเอาเงินในอนาคตมาใช้ อย่างการรูดปรื๊ดๆ เก็บแต้มบัตรเครดิตกันระรัว สุดท้ายลมจับ ล้มตึงตอนสิ้นเดือนเมื่อเห็นใบแจ้งหนี้ ต้องลำบากไปรูดใบนู้น มาโปะใบหนี้ เป็นหนี้วนไปวนมา ไม่รู้จบ หรือต้องไปหยิบยืมเงินจากครอบครัว หรือคนใกล้ตัวให้คนอื่นเค้าลำบากใจ พอถึงเวลาใช้คืนไม่ได้ พาลจะเสียมิตรภาพและความรู้สึกดีๆที่สะสมมานาน เป็นแบบนี้มีแต่พังกับพัง ได้ไม่คุ้มเสียหรอกค่ะ ฉะนั้นก่อนจะเป็นหนี้ คิดทบทวนให้ดีๆก่อน ถ้าไม่จำเป็นจริงๆก็ห้ามเป็นหนี้จะดีที่สุด ด้วยความปรารถนาดีค่ะซิส <3
.
4.นิสัยไร้สติ

เข้าใจค่ะ ว่าเดี๋ยวนี้เงินมันหลุดลอยออกจากกระเป๋าง่ายขนาดไหน คิดดู ขนาดนอนเล่นมือถืออยู่บนเตียงเพลินๆ ก็มีโฆษณาเด้งขึ้นมา เผลอแป๊ปเดียวก็เสียเงินให้ร้านค้าออนไลน์ไปซะอย่างงั้น ก็ยุคนี้จะซื้อจะขายอะไรก็ง่ายไปหมด สั่งปุ๊ป โอนปั๊ป พรุ่งนี้ก็รอของมาส่งหน้าประตูบ้าน เรียกได้ว่ามีเรื่องชวนเสียเงินได้ทุกที่ ทุกเวลา ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้ก็คือ ต้องพก “สติ” เอาไว้ทุกที่ ทุกเวลาเช่นเดียวกันค่ะ จะเสียเงินให้กับอะไร ถามตัวเองก่อนว่าสิ่งนี้แค่ “ต้องการ (Want)” หรือ “จำเป็น (Need)” ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้อีก ก็ให้ลองขั้นต่อไปด้วยการใช้ “กฏ 48 ชั่วโมง” วิธีก็คือเมื่อเราคิดจะเสียเงินกับอะไรก็ตาม ให้ปล่อยเวลาผ่านไปอย่างน้อย 48 ชั่วโมงเสียก่อน หลังจากนั้นค่อยกลับมาถามตัวเองอีกครั้งว่าเราอยากได้มันจริงๆหรือไม่ ถ้าคำตอบคือ “ใช่” ก็ลุยได้เลยค่ะ ไม่ว่ากัน แต่ก็จัดระดับความสำคัญด้วยว่าเงินส่วนไหน ควรใช้ก่อน ใช้หลัง จะได้ไม่ต้องมาพังเอาตอนปลายเดือนน้อ อิอิ
.
5.นิสัยไม่วางแผน

ทุกๆเรื่องจะง่ายขึ้นเมื่อมีการ “วางแผน” ค่ะ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องการใช้เงิน หากเราวางแผนการใช้เงินที่เหมาะสมกับตัวเราไว้ก่อนแล้ว และพยายามทำตามเเผนอย่างมีวินัย เต็มความสามารถ เชื่อสิว่าสุขภาพทางการเงินของคุณต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน ลองดูนะคะ หาเวลาสักพัก นั่งวางแผนจริงจัง ทั้งแผนการเงินระยะสั้น ระยะยาว จะช่วยทำให้เรามองเห็นภาพการใช้ชีวิตได้ชัดขึ้น เช่น ต้องเก็บเงินเท่าไหร่ ต้องลงทุน หรือ หารายได้เพิ่มอีกมั้ย อะไรแบบนี้ ที่สำคัญขาดไม่ได้ เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่หลายคนพร่ำสอนกันมาตั้งแต่เรายังเป็นเด็กน้อย ( แต่ปัจจุบันผู้ใหญ่หลายคนก็ยังไม่ทำ ) นั่นก็คือ “การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย” เพราะมันจะทำให้เข้าใจถึงสภาพการเงินของเรามากขึ้น ทำให้สามารถวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้นด้วยนั่นเองค่ะ ขอให้โชคดีนะคะ : )

