X

“เมโสหน้าใส” กู้ผิวขาวทันใจ ตัวช่วยผิวไบร์ทสวย

Beauty 
Jul 02,2024
x Pattarawan Suwannamas

💉เมโสหน้าใส ตัวช่วยผิวสวย เพิ่มความขาว กระจ่างใส ผลลัพธ์เร็วแค่ไหน ?

เมโสหน้าใส

เมโสหน้าใส หัตถการยอดฮิตในปัจจุบันที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันอันแสนเร่งรีบทำให้การดูแลผิวให้ขาวกระจ่างใส สุขภาพดี เลยเป็นเรื่องยากสำหรับบางคนที่ไม่ค่อยมีเวลา ที่ต้องเจอทั้งแสงแดด มลภาวะที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ! Beauty Hunter รวบรวมทุกคำถาม ข้อมูลต่าง ๆ ที่หลายคนสงสัยว่า ‘เมโสหน้าใส’ เป็นหนึ่งในตัวช่วยบำรุงผิว สามารถช่วยฟื้นฟูผิวได้แบบเร่งด่วนจริงไหม แล้วมีอะไรที่ต้องรู้ก่อนเริ่มฉีดบ้าง?

📄สารบัญ เมโสหน้าใส

  1. เมโสหน้าใส คืออะไร ? มาทำความรู้จักกัน
  • คำว่า “เมโส” หมายถึงอะไร ?
  • กระบวนการทำงานของเมโสหน้าใส

     2. เมโสหน้าใส มีกี่สูตร ?
     3. เมโสหน้าใส มีเทคนิคการฉีดแบบไหนบ้าง ?

  • เทคนิคการฉีดแบบสะกิด
  • เทคนิคการฉีดแบบ 16 จุด

     4. เมโสหน้าใส ช่วยอะไรบ้าง ?
     5. เมโสหน้าใส เหมาะกับใคร ?
     6. คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับเมโสหน้าใส

  • เมโสหน้าใสอันตรายไหม ?
  • เมโสหน้าใสใช้กี่ CC ?
  • เมโสหน้าใสมีผลข้างเคียงอะไรไหม ?
  • เมโสหน้าใสเห็นผลกี่วัน ? ผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม ?

💬เมโสหน้าใส คืออะไร ? มาทำความรู้จักกัน

เมโสหน้าใส หรือ เมโสเทอราปี (Mesotherapy) คือ การทำทรีทเม้นท์บำรุงผิวใส ด้วยการฉีดวิตามินหรือสารสกัดที่มีประโยชน์ในการบำรุงผิว เช่น แร่ธาตุต่าง ๆ กรดอะมิโน เข้าสู่ผิวชั้นกลางโดยตรง จึงทำให้ออกฤทธิ์ได้ไวกว่าการทาครีมบำรุงทั่วไป เห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว เมโสหน้าใสจะช่วยกระตุ้นเซลล์ผิว ลดการอักเสบ ขับสารพิษ ฟื้นฟูผิวให้กลับมาเนียนใส ดูสุขภาพดี

บางคลินิกเรียกว่า Meso White เนื่องจากมีสูตรตัวยาเฉพาะที่แตกต่างกันไปของแต่ละคลินิก จึงมีชื่อเรียกที่ไม่เหมือนกัน แต่ทั้งหมดล้วนเป็นการฉีดเมโสหน้าใสเช่นเดียวกันนั่นเอง

คำว่า “เมโส” หมายถึงอะไร ?

เมโสหน้าใสฉีดลงในชั้นกลางของผิว

คำว่า “เมโส” ในเมโสหน้าใส มาจากรากศัพท์ภาษากรีกคำว่า Meso ที่แปลว่า ตรงกลาง เมื่อนำมาใช้ในวงการเสริมความงาม จะหมายถึงการฉีดสารบำรุงลงในชั้นกลางของผิว ซึ่งโครงสร้างผิวหนังของมนุษย์จะประกอบไปด้วย 3 ชั้นหลัก คือ

  • ชั้นนอกสุด คือ ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) 
  • ชั้นกลาง คือ ชั้นหนังแท้ (Dermis) 
  • ชั้นในสุด คือ ชั้นไขมัน (Subcutis)

การฉีดสารบำรุงเข้าสู่ชั้นกลางของผิวหรือชั้นหนังแท้ จะเป็นวิธีฟื้นฟูโครงสร้างผิวที่ตรงจุดและได้ผล อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นชั้นที่ประกอบด้วยคอลลาเจนและอิลาสติน ที่ทำหน้าที่สร้างความยืดหยุ่น เต่งตึง กระชับให้กับผิว

กระบวนการทำงานของเมโสหน้าใส

เมโสหน้าใส ใช้หลักการ Homeopathy ซึ่งเป็นศาสตร์การบำรุงผิวที่มีต้นกำเนิดจากเยอรมัน โดยกระบวนการทำงานของเมโสหน้าใส ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนสำคัญ ได้แก่

  • Detoxification : การกำจัดสารพิษ ต้นเหตุของการเกิดปัญหาผิว
  • Metabolism : การเร่งกระบวนการเผาผลาญและไหลเวียนเลือด ทำให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
  • Nutrients & Cell therapy : การให้สารอาหารและบำรุงรักษาเซลล์ผิว ทำให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้น
  • Restructuring : การปรับสมดุลผิวให้แข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดี ป้องกันการถูกทำร้ายจากมลภาวะสิ่งแวดล้อม

จากกระบวนการทำงานนี้ เมโสหน้าใส ไม่เพียงแค่ช่วยลดอาการอักเสบต่าง ๆ บนผิวหน้า และขับสารพิษที่สะสมออกจากผิวเท่านั้น แต่ยังช่วยบำรุงเซลล์ผิวใหม่ ฟื้นฟูสภาพผิวจากภายในสู่ภายนอกอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวกลับมาแข็งแรงและสามารถดูดซึมวิตามินได้ดีกว่าการทานวิตามินบำรุงผิวทั่วไปนับสิบเท่า ดังนั้นเมโสหน้าใสจึงเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน

💬เมโสหน้าใส มีกี่สูตร ?

เมโสหน้าใสมีหลายสูตร หลายยี่ห้อ และมีชื่อเรียกแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไข โดยหลัก ๆ แบ่งเป็น 3 สูตร ดังนี้

  • เน้นหน้าขาวใส : มีส่วนผสมของวิตามินต่าง ๆ ที่ทำให้ผิวขาวขึ้น เช่น vitamin A B C E, Transamin, Glutathione
  • เน้นหน้าใส : มีส่วนผสมหลักเป็นคอลลาเจนและโคเอนไซม์ ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวฟูขึ้น และกระชับรูขุมขน
  • เน้นลดสิว – แก้ผื่น : มีส่วนผสมของคอลลาเจนและตัวยาที่ช่วยลดการอักเสบ ขับสารพิษที่สะสมอยู่ในผิวออกมา คอลลาเจนจะช่วยให้ต่อมไขมันทำงานลดลง แก้ปัญหาสิว ผิวเป็นผื่นแพ้

💬เมโสหน้าใส มีเทคนิคการฉีดแบบไหนบ้าง ?

เมโสหน้าใสมีเทคนิคการฉีดอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ การฉีดแบบสะกิด และ การฉีดแบบ 16 จุด ซึ่งเทคนิคการฉีดที่ต่างกัน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน

เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใส

เทคนิคการฉีดแบบสะกิด

การฉีดเมโสหน้าใสแบบสะกิด เป็นเทคนิคการฉีดแบบเก่า ที่ใช้เข็มฉีดตัวยาเมโสกระจายเป็นจุดเล็ก ๆ ในผิวชั้นตื้นทั่วใบหน้า เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ วิธีนี้เกิดผลข้างเคียงได้ง่าย เช่น รอยช้ำ รอยแดงจากเข็ม และหากขั้นตอนในการฉีดไม่สะอาดเพียงพอ จะทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อได้เช่นกัน จึงเป็นเทคนิคการฉีดที่ไม่นิยมใช้ในปัจจุบัน

เทคนิคการฉีดแบบ 16 จุด

การฉีดเมโสหน้าใสแบบ 16 จุด เป็นเทคนิคการฉีดตัวยาเมโสเข้าไปตามทิศทางการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลือง 16 จุดทั่วใบหน้า ทำให้ตัวยากระจายตัวเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ออกฤทธิ์ได้ยาวนานกว่า และมีรอยช้ำ รอยเข็มน้อยกว่าเทคนิคการฉีดแบบสะกิด จึงได้รับความนิยมอย่างมาก

💬เมโสหน้าใส ช่วยอะไรบ้าง ?

เมโสหน้าใสเป็นมากกว่าแค่การปรับผิวขาวกระจ่างใส แต่ยังครอบคลุมการดูแลผิวทั้งหมด ทั้งด้านความชุ่มชื้น การขับสารพิษ รวมถึงการฟื้นฟูผิวให้แลดูอ่อนกว่าวัย โดยเมโสหน้าใสสามารถช่วยในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

  • เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
  • ขับสารพิษและปรับสภาพผิวให้แข็งแรง
  • แก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ปรับผิวหน้าขาว กระจ่างใส 
  • ลดสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ 
  • ทำให้รูขุมขนดูเล็กลง ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น
  • ฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์
  • ลดโอกาสการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

💬เมโสหน้าใส เหมาะกับใคร ?

เมโสหน้าใสเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับคนหลากหลายกลุ่ม ได้แก่

  • ผู้ที่มีปัญหาสิว ผื่นแพ้ และหน้าโทรม
  • ผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน รูขุมขนกว้าง
  • ผู้ที่ผิวแพ้ง่าย ผิวอักเสบ ไม่แข็งแรง
  • ผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำจากรอยสิว สีผิวไม่สม่ำเสมอ
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เห็นผลไวกว่าการทาครีมบำรุงผิว
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย นอนดึก

เมสโสหน้าใส เหมาะกับใคร ?

💬คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับเมโสหน้าใส

หลายคนอาจยังมีคำถามและข้อสงสัย ต่อไปนี้จะเป็นการรวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเมโสหน้าใส ที่มาพร้อมกับคำตอบเพื่อไขประเด็นเหล่านั้น        

เมโสหน้าใสอันตรายไหม ?

การฉีดเมโสหน้าใสมีความปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย เพราะตัวยาเมโสเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อผิว หลังฉีดไม่ได้ทำให้ผิวบางหรือไวต่อแสง แต่กลับช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับผิวหน้ามากขึ้น 

อย่างไรก็ตามควรระวังการใช้ยาเมโสที่ลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมายหรือที่เรียกว่า ยาหิ้ว เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ จึงควรเลือกฉีดกับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือและได้มาตรฐานเท่านั้น

เมโสหน้าใสใช้กี่ CC ?

ปริมาณการฉีดในแต่ละครั้งจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของผลิตภัณฑ์เมโส เนื่องจากแต่ละยี่ห้อจะมีปริมาณบรรจุต่อขวดแตกต่างกัน โดยจะระบุเป็นหน่วยมิลลิลิตร (ml.) บนฉลากขวด ซึ่งมักจะพบในขนาด 2 ml., 3 ml. หรือ 5 ml. เป็นต้น 

นอกจากนี้ บางยี่ห้ออาจต้องมีการผสมสารละลายเมโสกับสารอื่น ๆ เพิ่มเติมก่อนใช้งาน รวมถึงแพทย์ต้องเป็นผู้ประเมินและกำหนดปริมาณที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาผิวของแต่ละคน

เมโสหน้าใสมีผลข้างเคียงอะไรไหม ?

ผลข้างเคียงหลังฉีดเมโสหน้าใส ไม่ได้เป็นผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย อาจมีเพียงรอยแดง รอยช้ำเล็กน้อยจากเข็มที่ฉีด ซึ่งสามารถหายไปเองภายใน 1 – 3 วัน หรืออาการบวมเป็นตุ่มนูนชั่วคราวบริเวณที่ฉีด ซึ่งเกิดจากการบวมยา เมื่อตัวยากระจายตัวและซึมเข้าสู่ผิวแล้ว อาการบวมจะหายไปในไม่กี่วัน

การฉีดเมโสหน้าใส

เมโสหน้าใสเห็นผลกี่วัน ? ผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม ?

หลังฉีดเมโสหน้าใสจะเริ่มเห็นผลในประมาณ 3 วัน และจะเห็นผลเต็มที่ใน 7 – 14 วัน ขึ้นอยู่กับความถี่ในการฉีดและสภาพผิวของแต่ละคน โดยผลลัพธ์ของเมโสหน้าใสจะอยู่ได้นาน 1 – 2 เดือน หากฉีดอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น ซึ่งสิ่งสำคัญคือการดูแลตัวเองอย่างถูกต้องและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว 

✨สรุป

เมโสหน้าใส เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน เพราะช่วยให้ผิวสุขภาพดี กระจ่างใสขึ้นได้อย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้น ๆ ช่วยลดความยุ่งยากในการดูแลผิวได้ดี อีกทั้งเป็นหัตถการที่ปลอดภัย หากฉีดโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และใช้ยาเมโสหน้าใสของแท้


Beauty Hunter มีอีกหลายบทความที่น่าสนใจ ตามไปอ่านต่อกันเลยค่ะ

ติดตามอัพเดทต่าง ๆ ได้ที่นี่เลยจ้า FB: Beauty Hunter (Thailand)

Advertisement
Pattarawan Suwannamas
Advertisement

Advertisement