“สิวฮอร์โมน” ให้หายเกลี้ยง จัดการได้ด้วยวิธีที่ง่ายและได้ผล คนเป็นสิวต้องอ่าน !
“สิวฮอร์โมน” คำนี้หลายคนอาจคุ้นหูดี แต่ไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันยังไงให้หายเกลี้ยง ! ไม่ต้องห่วงนะ วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จัก วิธีจัดการสิวฮอร์โมนทั้งในผู้ชายและผู้หญิงแบบง่าย ๆ ที่ได้ผลจริง โดยไม่ทำให้ผิวเสียหาย และยังแนะนำวิธีรักษาสิวฮอร์โมนโดยแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง มาดูกันสิว่าคุณหมอใช้วิธีไหนบ้างในการรักษาแต่ละคน เพื่อช่วยให้คุณเลือกวิธีรักษาได้เหมาะกับตัวเองและกลับมามีผิวสวยใส ไร้สิวอย่างมั่นใจ !
สิวฮอร์โมนคืออะไร? เกิดขึ้นได้ทั้งชายและหญิง
สิวฮอร์โมน (Hormonal Acne) คือเจ้าสิวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงที่ฮอร์โมนแปรปรวน เช่น ช่วงวัยรุ่นที่ฮอร์โมนกำลังบ้าพลัง, ก่อนและระหว่างรอบประจำเดือน, หรือแม้กระทั่งตอนตั้งครรภ์ หรือใช้ยาคุมกำเนิด เจ้าสิวชนิดนี้มักจะชอบแอบมาขึ้นที่บริเวณที่มีต่อมไขมันเยอะ ดังนั้นไม่ว่าจะในผู้ชายหรือผู้หญิง ก็เป็นสิวฮอร์โมนได้เหมือนกันหมด
ลักษณะสิวฮอร์โมน สังเกตได้ชัดรักษาได้ง่ายขึ้น
สิวฮอร์โมนมีลักษณะเด่นที่สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ เลย คือมักจะขึ้นเป็น “สิวอักเสบขนาดใหญ่” และเมื่อ “สัมผัสแล้วเจ็บ” ได้ง่าย อาจมีหนองบางส่วน ส่วนใหญ่จะอยู่ในจุดที่มีต่อมไขมันเยอะ โดยมันเกิดขึ้นได้บ่อยหรือกลับมาเป็นซ้ำได้อีก
จุดที่สิวฮอร์โมนมักมาเยือนบ่อย ๆ
ตำแหน่งบนร่างกายที่เกิดสิวฮอร์โมนได้ง่าย มักเป็นตำแหน่งที่มีต่อมไขมันเยอะ ซึ่งเมื่อฮอร์โมนเกิดการเปลี่ยนแปลง จะกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป จนทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวได้บ่อย ๆ ในบริเวณดังนี้
-
ใบหน้า
โดยเฉพาะ บริเวณ T-zone (หน้าผาก, จมูก, คาง) ที่มีต่อมไขมันมาก มักเกิดสิวประเภทอักเสบได้ง่าย
-
คอ
ซึ่งเป็นจุดที่มักเกิดสิวอักเสบที่มีขนาดใหญ่และเจ็บมาก
-
หลัง
เพราะมีต่อมไขมันมากและเป็นพื้นที่ที่มีการเสียดสีจากเสื้อผ้า จึงทำให้เกิดสิวได้ง่าย
-
หน้าอก
ซึ่งมีการเสียดสีจากเสื้อผ้าระหว่างวันและเป็นจุดที่มีต่อมไขมันทำให้เกิดสิวได้บ่อย
-
ไหล่
เป็นอีกหนึ่งจุดที่สิวฮอร์โมนมักขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงที่ฮอร์โมนแปรปรวน
สาเหตุเกิดสิวฮอร์โมน
สิวฮอร์โมนเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งสามารถกระตุ้นการผลิตน้ำมันในต่อมไขมันมากเกินไป ส่งผลให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวได้ง่าย โดยสาเหตุหลัก ๆ ได้แก่
-
ช่วงวัยรุ่น
เมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ร่างกายจะมีการผลิตฮอร์โมนมากขึ้น โดยเฉพาะ ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgens) ที่ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป หรือก้าวสู่วัยรุ่นชายเต็มตัว ก็จะผลิต ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) ออกมาเยอะ เป็นสาเหตุให้เกิดสิวฮอร์โมนได้เช่นกัน
-
ระหว่างรอบเดือนผู้หญิง
ผู้หญิงหลายคนมักพบสิวในช่วงก่อนและระหว่างมีประจำเดือน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เอสโตรเจน (Androgens) และ โปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่ไปกระตุ้นให้เกิดสิว
-
ตั้งครรภ์
ระดับฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิงจะเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ที่สามารถกระตุ้นการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน
-
ใช้ยาคุมกำเนิด
ยาคุมกำเนิดบางชนิด สามารถทำให้เกิดสิวฮอร์โมนได้ เนื่องจากตัวยาเข้าไปเพิ่มระดับฮอร์โมนในร่างกาย
-
อารมณ์เครียด
ความเครียดสามารถกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้นและอาจทำให้เกิดสิวได้
-
โรคหรือปัญหาฮอร์โมนอื่น ๆ
เช่น ถุงน้ำรังไข่หลายใบ PCOS (Polycystic Ovary Syndrome) หรือโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ ที่ทำให้เกิดการแปรปรวนของฮอร์โมน ส่งผลให้เกิดสิวได้
-
อาหารบางชนิด
อาหารกระตุ้นสิวฮอร์โมน มักจะเป็นอาหารที่ใส่น้ำตาลสูง (Glycemic Index) เช่น ขนมปังขาว, มันฝรั่ง, ช็อกโกแลต หรือเครื่องดื่มรสหวานมาก เป็นต้น
เป็นสิวฮอร์โมน เลือกใช้อะไรให้หาย?
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือวิธีรักษาสิวฮอร์โมนให้หายนั้น ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดสิวฮอร์โมนและชนิดของสิวที่เกิดขึ้น นี่คือสิ่งที่สามารถช่วยให้สิวฮอร์โมนหายได้
✅เลือกใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวฮอร์โมน
- เบนซอยล์เปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) ช่วยฆ่าแบคทีเรียที่ทำให้สิวเกิดขึ้นและลดการอักเสบ เหมาะกับสิวที่มีหนองหรือสิวอักเสบ
- กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันในรูขุมขน เหมาะสำหรับสิวที่เกิดจากการอุดตันในรูขุมขน
- กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวและช่วยให้รูขุมขนเปิดโล่ง ลดการอุดตัน
- น้ำมันต้นชา (Tea Tree Oil) เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและช่วยลดการอักเสบ
✅ดูแลผิวหน้าให้สะอาดเสมอ
ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน(Non-comedogenic) ไม่ทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคือง ร่วมกับใช้มอยเจอร์ไรเซอร์แบบ Oil-free เป็นประจำ
✅การควบคุมความเครียด
ความเครียดสามารถกระตุ้นการผลิตฮอร์โมน คอร์ติซอล ซึ่งทำให้สิวฮอร์โมนขึ้นได้ ควรหาเวลาผ่อนคลาย เช่น การออกกำลังกาย การทำสมาธิ หรือการนอนหลับที่เพียงพอ เป็นต้น
✅เลือกกินอาหารมากขึ้น
ลดอาหารที่มีน้ำตาลสูง หรือ อาหารที่มีกรดไขมันไม่ดี (Trans fats) ซึ่งอาจกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนที่ทำให้สิวขึ้น เลือกทานอาหารที่ช่วยลดการอักเสบ เช่น ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซี และ อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 เช่น ปลา, ถั่วหรือเมล็ดพืชต่าง ๆ
วิธีจัดการสิวฮอร์โมนในผู้ชาย VS ผู้หญิง มีข้อแตกต่างกันอย่างไร
✅การใช้ยาคุมกำเนิด
ผู้ชาย: ไม่ใช้ยาคุมกำเนิด เนื่องจากไม่ได้มีผลกับฮอร์โมนในลักษณะเดียวกับผู้หญิง
ผู้หญิง: การใช้ยาคุมกำเนิดในกรณีที่แพทย์วินิจฉัยว่าเหมาะสมแล้ว จะสามารถช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนที่มีผลต่อการเกิดสิวได้
✅รักษาโรคที่เกี่ยวโยง
ผู้ชาย: มักจะจัดการสิวฮอร์โมนด้วยการควบคุมความเครียดและการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับสิวโดยตรง (เช่น ยาทาเฉพาะจุด) มากกว่า
ผู้หญิง: หากมีปัญหาฮอร์โมนแปรปรวน เช่น จากการตั้งครรภ์หรือโรค PCOS จำเป็นต้องใช้เข้ารักษากับแพทย์เฉพาะทางเพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด
✅ความเครียดและวิถีชีวิต
ผู้ชาย: มักจะจัดการกับสิวฮอร์โมนด้วยการออกกำลังกายและการลดความเครียดเป็นหลัก เพราะการผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลในระดับสูงสามารถกระตุ้นการเกิดสิว
ผู้หญิง: ความเครียดก็เป็นปัจจัยสำคัญ แต่ในบางช่วง เช่น ก่อนประจำเดือนหรือระหว่างการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิงจะมีการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่าผู้ชาย ซึ่งอาจต้องใช้วิธีการที่มีผลต่อการปรับสมดุลฮอร์โมน เช่น การใช้ยาฮอร์โมน
✅ปรับพฤติกรรมและการรับประทานอาหาร
ผู้ชาย: ด้วยระบบเผาผลาญที่ดีกว่าผู้หญิง หากเป็นสิวฮอร์โมนอาจเน้นไปที่การออกกำลังกายและการลดความเครียดเป็นหลัก
ผู้หญิง: การปรับอาหารและควบคุมฮอร์โมน เช่น ลดการบริโภคน้ำตาลหรืออาหารที่มีกรดไขมันไม่ดี อาจช่วยได้ผลดีกว่าแค่การออกกำลังกาย หรือควบคุมความเครียดอย่างเดียว
การรักษาสิวฮอร์โมนโดยแพทย์ผิวหนัง
การรักษาสิวฮอร์โมนโดยแพทย์ผิวหนัง มีหลายวิธีที่สามารถช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและลดการเกิดสิวได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของสิว โดยแพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล ดังนี้
✅ยาทาเฉพาะจุด
- เบนซอยล์เปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide)
ช่วยฆ่าแบคทีเรียที่ทำให้สิวเกิดขึ้นและลดการอักเสบ
- กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid)
ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันในรูขุมขน
- เรตินอยด์ (Retinoids)
ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันของรูขุมขน ช่วยในการลดการเกิดสิวและลดการอักเสบ
✅ยากินรักษาสิว
- ยาคุมกำเนิดชนิดรวม (Combined Oral Contraceptive – COC)
เช่น Ethinyl estradiol และ Progestin ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและลดการผลิตน้ำมันที่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน - ยาต้านแอนโดรเจน (Anti-Androgens)
เช่น สไปโรโนแลคโตน (Spironolactone) ซึ่งช่วยลดการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในร่างกาย ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นการเกิดสิว
- ยาปฏิชีวนะ (Oral Antibiotics)
เช่น เตตราไซคลิน (Tetracycline), โดคซีไซคลิน (Doxycycline) และ มิโนไซคลีน (Minocycline) ใช้ในการรักษาสิวที่มีการอักเสบรุนแรง โดยช่วยฆ่าแบคทีเรียและลดการอักเสบ
- รักษาด้วยแสง
การบำบัดด้วยแสง (Photodynamic Therapy) ใช้แสงเพื่อฆ่าแบคทีเรียและลดการอักเสบที่ทำให้เกิดสิวฮอร์โมน
- รักษาด้วยเลเซอร์
เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย มักใช้ Pulsed Dye Laser หรือ เลเซอร์ Fractional CO2 ที่ช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แถมยังช่วยให้รอยสิวหายเร็วขึ้น
- ผลัดเซลล์ผิว
ใช้กรดเพื่อผลัดเซลล์ผิวชั้นบนออก ช่วยให้รูขุมขนเปิดโล่ง ลดการอุดตัน และลดการอักเสบจากสิว โดยมีกรดต่างๆ เช่น กรดไกลโคลิก หรือ กรดซาลิไซลิก ที่เหมาะกับการรักษาสิว
- ฉีดสิว
การฉีดยาสเตียรอยด์ (Steroid Injections) ใช้สำหรับสิวอักเสบหนักหรือซีสต์ใหญ่ โดยมักเจอในกรณีคนไข้เป็นสิวฮอร์โมนบ่อยเช่นกัน แพทย์จะฉีดยาในบริเวณที่มีการอักเสบ เพื่อลดการอักเสบและช่วยให้สิวยุบลงเร็วขึ้น
สรุป✨
สิวฮอร์โมน ไม่ใช่ปัญหาที่น่ากลัวอย่างที่คิด แม้จะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกาย และอาจเกิดได้บ่อย แต่หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ดูแลผิวให้สะอาด และการจัดการความเครียด ก็สามารถลดสิวฮอร์โมนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ชายจะเน้นการควบคุมความเครียดและการออกกำลังกาย
ส่วนผู้หญิงอาจต้องพิจารณาการเข้าพบแพทย์ผิวหนัง หรือแพทย์เฉพาะทาง เพื่อใช้ยาคุมกำเนิดหรือการรักษาฮอร์โมนที่ผิดปกติจากอวัยวะภายในเพิ่มเติม เพื่อรักษาให้หายขาด เพียงเท่านี้ก็จัดการสิวฮอร์โมนอย่างมีสไตล์ได้ทั้งหญิงและชายเลยล่ะ
Beauty Hunter มีอีกหลายบทความที่น่าสนใจ ตามไปอ่านต่อกันเลยค่ะ
- “ซีรี่ส์เกาหลี” ตลก ขำน้ำตาเล็ด คลายเครียดกันหน่อยจ้า!!
- ทริคเลือก “รองเท้า” แบบไหน ใส่แล้วขาเรียว ยาว!!
- “ซีรีส์เกาหลี” หมอหล่อ บอกต่อด้วยจ้า!!
- 7 “หนังผี” สยองขวัญไทย หลอนจนเป็นตำนาน
- “ซงคัง” ซีรี่ส์ที่แฟนตัวจริงห้ามพลาด! ปังทุกเรื่อง!
- “น้ำหอม” ตัวไหนที่ดาราใช้ มีอะไรบ้าง?
- พระเอก”ซีรี่ย์จีน”มาแรง 10 อันดับ(เปิดวาป)
- 8 “ซีรี่ส์เกาหลี” สุดปังของพระเอกสุดฮอต “จงซอก” ที่ห้ามพลาด!!
- มัดรวม15 “ซีรีส์จีน” มาแรงครบรสใน WeTV ไม่ดูไม่ได้!!
- “หนังซอมบี้” 12 เรื่องหนีตายแบบลุ้นระทึกทั้งเรื่อง ไม่ดูไม่ได้!!
- “แต่งหน้าเกาหลี” 7 เทคนิคสำหรับสาวหน้าฝอ
- “โซจู” 7 สูตรผสมยอดฮิต อร่อย กินง่าย!!
- “บอร์ดเกม” สายบลัฟ ทำลายมิตรภาพ