สิวผดหายได้แน่! แชร์วิธีรักษาและป้องกัน ที่ทำแล้วเห็นผลดี
สิวผด
สิวผด ดูเหมือนจะเป็นแค่ปัญหาผิวเล็ก ๆ แต่เจ้าตัวนี้กลับสามารถทำให้หน้าของเราไม่เรียบเนียนและดูไม่สดใส แม้จะไม่ได้ทำให้เราเจ็บหรือมีอาการอักเสบหนัก ๆ แต่มันก็สร้างความรำคาญได้ไม่น้อย หากปล่อยไว้นาน อาจกลายเป็นปัญหาผิวที่แก้ยากได้เช่นกัน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะวันนี้ Beauty Hunter มีเคล็ดลับในการรักษาและป้องกันที่ทุกคนทำได้ พร้อมรู้ สาเหตุสิวผด เกิดจากอะไร เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอปัญหาเรื่องสิวผดกวนใจอีกต่อไป
สิวผดคืออะไร? รู้จักกับความวุ่นวายเล็ก ๆ ที่ไม่เล็ก
สิวผด คือ “สิวขนาดเล็ก” ที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน มักมีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ หรือเม็ดผดขึ้นตามผิวหน้า โดยเฉพาะบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก เช่น หน้าผาก คาง หรือบริเวณที่ทาครีมบำรุงหรือกันแดดบ่อย ๆ เจ้าสิวผดอาจจะไม่ทำให้เราเจ็บปวด แต่มันก็ทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียนเลยทีเดียว แต่ไม่ต้องห่วง เพราะมันสามารถรักษาให้หายได้โดยแทบไม่ทิ้งรอยดำ รอยแดง หรือรอยแผลเป็นเหมือนสิวชนิดอื่น
ทำไมสิวผดถึงเกิด? สาเหตุที่คุณต้องรู้
สิวผดอาจดูเล็ก ๆ ขึ้นยุบยับบนผิว จนทำให้รู้สึกไม่เรียบเนียน แต่ถ้ารู้สาเหตุแล้วจะได้จัดการได้ง่าย ลองมาดูปัจจัยหลัก ที่ทำให้เจ้าสิวผดตัวร้ายเกิดขึ้นกัน
-
น้ำมันและเหงื่อสะสม
เมื่อเหงื่อและน้ำมันบนผิวสะสมมากเกินไป โดยไม่มีการทำความสะอาดให้ดี ก็ทำให้รูขุมขนอุดตัน แล้วก็ก่อให้เกิดสิวผดขึ้นมาได้
-
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับผิว
ผลิตภัณฑ์ที่หนักเกินไปหรือมีส่วนผสมที่อุดตันรูขุมขนจะทำให้ผิวของเรามีสิวผดง่ายขึ้นนะ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เบาสบายจะช่วยได้เยอะเลย
-
อากาศร้อนและชื้น
อากาศร้อน ๆ หรือความชื้นสูงทำให้ผิวมีเหงื่อออกมาก จนเกิดสิวผดได้ง่าย ๆ แบบไม่รู้ตัว
-
การสัมผัสหน้าบ่อย ๆ
การใช้มือสัมผัสใบหน้า หรือถูหน้าบ่อย ๆ อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียสะสม และทำให้เกิดสิวผดขึ้นมาได้
-
ความเครียดและฮอร์โมน
เมื่อเราเครียด หรือช่วงที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เช่น ช่วงมีประจำเดือน ฮอร์โมนจะกระตุ้นให้เกิดสิวผดได้มากขึ้น
สิวผดแตกต่างจากสิวชนิดอื่นยังไง? มาดูกัน!
สิวผดอาจดูเหมือนสิวตัวเล็ก แต่จริง ๆ แล้วมันมีความแตกต่างจากสิวประเภทอื่นมากเลยนะ มาดูกันว่ามันต่างยังไงบ้าง
-
ขนาดและลักษณะ
สิวผดมักจะมีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ หรือผด ๆ บนผิวหน้า ซึ่งแตกต่างจากสิวอุดตันหรือสิวอักเสบที่มักมีหัวสิว หรือมีการอักเสบที่เห็นชัดเจนกว่า
-
การเจ็บปวดและอักเสบ
สิวผดมักไม่เจ็บหรือแดงมากนัก มันจะค่อนข้างไม่ทำให้ผิวอักเสบหนัก ๆ แต่สิวอุดตันหรือสิวอักเสบอาจจะมีอาการบวม แดง และเจ็บอย่างที่รู้สึกและเห็นได้ชัดเจน
-
สาเหตุการเกิด
สิวผดมักเกิดจากความร้อน ความชื้น โดยเฉพาะสภาพอากาศที่เผชิญความร้อนอยู่บ่อย ๆ อย่างประเทศไทย หรือการอุดตันของรูขุมขนจากน้ำมันและเหงื่อ ส่วนสิวอุดตันหรือสิวอักเสบเกิดจากการอุดตันของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว หรือการติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการอักเสบ
-
วิธีการรักษา
การรักษาสิวผดมักจะง่ายกว่า แค่การดูแลผิวให้สะอาดและใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนด้วยตัวเอง แต่สิวอุดตันหรือสิวอักเสบอาจต้องการการรักษาที่เฉพาะเจาะจงหรือการใช้ยารักษาเพื่อควบคุมการอักเสบ ซึ่งอาจต้องเข้าพบคุณหมอผิวหนังเพื่อประเมินการจ่ายยาและแนวทางรักษา
วิธีรักษาสิวผดง่าย ๆ ที่บ้านในปี 2025
สิวผดเป็นปัญหาผิวที่ทำให้เราหงุดหงิดได้ แต่ว่าการรักษามันไม่ยากเลยนะ มาดูวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้สิวผดหายเร็วและกลับมามีผิวสวยใสได้ด้วยตัวเอง แถมทำเองได้ที่บ้าน
-
ทำความสะอาดผิวให้ดี
การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนคือขั้นตอนแรกที่ต้องทำ ล้างหน้าให้สะอาดจากน้ำมันและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่บนผิว เพื่อป้องกันไม่ให้รูขุมขนอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของสิวผด
-
เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนไร้สารเคมี
อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่หนักเกินไป ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เบาสบาย เช่น โฟมล้างหน้าหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ไม่มีสารเคมีรุนแรง เพื่อไม่ให้ผิวระคายเคืองและกระตุ้นสิวผดขึ้นมาอีก
-
หลีกเลี่ยงความร้อนและความชื้น
อากาศร้อน ๆ หรือการสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ อาจทำให้สิวผดแย่ลง พยายามหลีกเลี่ยงการออกไปในที่ร้อนจัด หรือใช้ทิชชูซับเหงื่อเบา ๆ เพื่อไม่ให้สิวผดขึ้นมากวนใจ
-
ทาครีมกันแดดทุกวัน
แสงแดดไม่ใช่เพื่อนของสิวผด อย่าลืมทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ซึ่งจะทำให้สิวผดไม่ทวีความรุนแรงขึ้น
-
ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์
การให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวเป็นสิ่งสำคัญ เลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ไม่อุดตันรูขุมขน ช่วยให้ผิวไม่แห้งและฟื้นฟูจากการเกิดสิวผดได้เร็วขึ้น
-
อย่าบีบหรือแกะสิวผด
สุดท้ายอย่าลืมว่าการบีบหรือแกะสิวผดจะทำให้ผิวแย่ลงและอาจเกิดแผลเป็นได้ง่าย ๆ เลยแหละ ปล่อยให้ให้สิวมันหายเองดีกว่า
วิธีรักษาสิวผดโดยแพทย์ผิวหนัง
ถ้าสิวผดยังไม่ยอมหายไป หรือเราไม่อยากรอให้มันหายเอง แพทย์ผิวหนังมีวิธีรักษาที่ช่วยให้สิวผดหายเร็วและปลอดภัย มาดูกันว่าแพทย์ผิวหนังจะช่วยเราด้วยวิธีไหนบ้าง
-
ใช้ยาทา
แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาทาผิวที่มีส่วนผสมของ เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) หรือ กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ที่ช่วยในการลดการอุดตันของรูขุมขนและลดการอักเสบของสิวผด โดยจะทาในบริเวณที่มีสิวผด เพื่อช่วยลดอาการอักเสบและปรับสมดุลผิว
-
ใช้ยาปฏิชีวนะ
ในบางกรณีที่สิวผดมีอาการอักเสบแพทย์อาจจ่าย ยาปฏิชีวนะ แบบรับประทาน เช่น เตตราไซคลิน (Tetracyclines) หรือ โดไซคลิน (Doxycycline) ซึ่งช่วยลดการเติบโตของแบคทีเรียที่อาจทำให้เกิดสิวผดได้
-
ทำทรีทเมนต์
แพทย์อาจแนะนำทรีทเมนต์สำหรับการผลัดเซลล์ผิว เช่น กรดไกลโคลิก หรือ กรดซาลิไซลิก ซึ่งจะช่วยลดสิวผดโดยการทำให้เซลล์ผิวเก่าหลุดออก และป้องกันการอุดตันในอนาคต
-
ใช้เลเซอร์รักษาสิวผด
ถ้าสิวผดมีการอักเสบหรือรอยแดงมากเกินไป การทำ Pulsed Dye Laser (PDL) หรือ Fractional Laser ก็เป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากเลเซอร์เหล่านี้จะช่วยลดอาการอักเสบและรอยแดงจากสิวผด พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้ผิวเนียนใสขึ้น
-
ใช้แสงอินฟราเรด (LED Therapy)
สำหรับคนที่ไม่อยากใช้ยา หรือเลเซอร์ แพทย์อาจแนะนำการทำ LED Therapy โดยการใช้แสงสีแดงหรือสีฟ้าช่วยในการลดการอักเสบ และกระตุ้นการฟื้นฟูผิว
ข้อดีของการรักษาสิวผดกับแพทย์ผิวหนัง
การรักษาสิวผดกับแพทย์ผิวหนังไม่ได้แค่ช่วยให้ผิวดีขึ้น แต่ยังมีข้อดีหลายอย่างที่จะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจในทุกการรักษา มาดูกันว่าทำไมการไปหาหมอผิวหนังถึงเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยเลยในปี 2025 เช่นนี้
-
วินิจฉัยที่แม่นยำแบบมือโปร
แพทย์ผิวหนังจะวิเคราะห์สาเหตุของสิวผดอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการอุดตันหรือการระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์ ช่วยหาสาเหตุที่แท้จริง
-
รักษาที่ปลอดภัยและเหมาะสม
แต่ละคนมีสภาพผิวที่ต่างกัน แพทย์ผิวหนังจะเลือกวิธีการรักษาที่ตรงกับปัญหาของคุณ เช่น ยาทาที่เหมาะกับผิว หรือทรีทเมนต์ที่ช่วยให้สิวผดหายเร็วและไม่ทำร้ายผิว
-
ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและน่าทึ่ง
ใคร ๆ ก็อยากเห็นผลเร็วใช่ไหม? การรักษากับแพทย์ผิวหนังจะช่วยให้สิวผดหายไวและผิวกลับมาสวยใสอย่างรวดเร็ว เพราะคุณจะได้รับการดูแลที่เหมาะสมและมีเทคโนโลยีทันสมัย ช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด
-
มีการติดตามผลอย่างใกล้ชิด
ไม่ต้องกลัวว่า “เอ๊ะ! จะหายไหม?” แพทย์ผิวหนังจะติดตามผลการรักษาของคุณแบบมืออาชีพ จะคอยดูแลและปรับการรักษาให้เหมาะสมตามความต้องการของผิว
-
คำแนะนำในการดูแลผิวแบบครบวงจร
ไม่แค่รักษาแล้วจบ แพทย์ผิวหนังยังให้คำแนะนำในการดูแลผิวหน้าแบบระยะยาว เช่น การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม การหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้สิวผดกลับมา ซึ่งจะช่วยให้ผิวคุณสวยใสไปอีกนาน
-
ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย
การรักษาสิวผดกับแพทย์ผิวหนังนั้นมีตัวช่วยที่ไม่ธรรมดา เช่น การใช้เลเซอร์หรือการทำทรีทเมนต์พิเศษ ที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดการอักเสบของผิวให้คุณได้ผิวที่เนียนใสอย่างที่ต้องการ
วิธีป้องกันสิวผดให้หายขาด ไม่ต้องกลับมาเป็นอีก
-
ทำความสะอาดผิวให้สะอาดอย่าล้ำลึก
ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและเหมาะสมกับสภาพผิววันละ 2 ครั้ง เพื่อป้องกันการอุดตันของรูขุมขน
-
คุมมันด้วยผลิตภัณฑ์สูตรปราศจากน้ำมัน ( Oil Free )
เลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์หรือเซรั่มที่ไม่ทำให้ผิวมันเกินไป
-
หลีกเลี่ยงความร้อนและความชื้น
หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ร้อนชื้นเกินไป เพราะจะกระตุ้นการเกิดสิวผด
-
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อุดตันรูขุมขน (Non-comedogenic)
โดยการตรวจสอบฉลากของเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้แน่ใจว่าเป็นสูตรที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน
-
หลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้าบ่อย ๆ
การสัมผัสหน้าบ่อย ๆ จะทำให้เชื้อโรคสะสมและเกิดสิวผด
สรุป
สิวผดหายได้ หากเข้าใจสาเหตุและวิธีป้องกัน การรักษาก็ไม่ยากเลย เพียงแค่ทำความสะอาดผิวหน้า ควบคุมความมัน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน รวมถึงหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้สิวผดกลับมา การดูแลที่เหมาะสมจะช่วยให้สิวผดหายไปและไม่กลับมาอีก แค่ทำตามคำแนะนำ รับรองผิวหน้าของคุณจะกลับมาใส ไร้สิวผดแน่นอน
Beauty Hunter มีอีกหลายบทความที่น่าสนใจ ตามไปอ่านต่อกันเลยค่ะ
- “ซีรี่ส์เกาหลี” ตลก ขำน้ำตาเล็ด คลายเครียดกันหน่อยจ้า!!
- ทริคเลือก “รองเท้า” แบบไหน ใส่แล้วขาเรียว ยาว!!
- “ซีรีส์เกาหลี” หมอหล่อ บอกต่อด้วยจ้า!!
- 7 “หนังผี” สยองขวัญไทย หลอนจนเป็นตำนาน
- “ซงคัง” ซีรี่ส์ที่แฟนตัวจริงห้ามพลาด! ปังทุกเรื่อง!
- “น้ำหอม” ตัวไหนที่ดาราใช้ มีอะไรบ้าง?
- พระเอก”ซีรี่ย์จีน”มาแรง 10 อันดับ(เปิดวาป)
- 8 “ซีรี่ส์เกาหลี” สุดปังของพระเอกสุดฮอต “จงซอก” ที่ห้ามพลาด!!
- มัดรวม15 “ซีรีส์จีน” มาแรงครบรสใน WeTV ไม่ดูไม่ได้!!
- “หนังซอมบี้” 12 เรื่องหนีตายแบบลุ้นระทึกทั้งเรื่อง ไม่ดูไม่ได้!!
- “แต่งหน้าเกาหลี” 7 เทคนิคสำหรับสาวหน้าฝอ
- “โซจู” 7 สูตรผสมยอดฮิต อร่อย กินง่าย!!
- “บอร์ดเกม” สายบลัฟ ทำลายมิตรภาพ