ฟิลเลอร์คืออะไร ? ฉีด Filler ครั้งแรก ต้องรู้อะไรบ้างเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย✔️
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเห็นได้ชัดในการเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก และปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน อ่อนเยาว์ แต่ก่อนตัดสินใจจะฉีดฟิลเลอร์ หลายคนอาจยังมีข้อสงสัยและกังวลใจเกี่ยวกับความปลอดภัย หรือ ผลข้างเคียงต่าง ๆ ด้วย
📢 Beauty Hunter รวบรวมข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก เช่น ฟิลเลอร์ คืออะไร มีข้อดีอะไรบ้าง นิยมฉีดจุดไหน ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่นิยม ขั้นตอนการฉีด วิธีการดูแล ทริคการเลือกคลินิก และตอบทุกข้อสงสัยที่คุณอยากรู้ เพื่อให้สามารถตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างมั่นใจค่า~
💉 สารบัญ ฟิลเลอร์
- ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร ? ทำไมหลายคนนิยมฉีด
- 7 บริเวณนิยมฉีดฟิลเลอร์
- ฟิลเลอร์มีกี่ยี่ห้อ ยี่ห้อไหนเป็นที่นิยม ?
- ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ เข้าใจก่อนทำสวย
- การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน
- ฉีดฟิลเลอร์ กี่วันเห็นผล ? บวมนานแค่ไหน ?
- ฉีดฟิลเลอร์ มีผลข้างเคียงและความเสี่ยงที่ควรระวัง อะไรบ้าง ?
- ทริคเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ ให้ปลอดภัย ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาหลังฉีด
- Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์
- ฉีดฟิลเลอร์ เจ็บไหม ?
- ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม ?
- ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ ?
- ฉีดฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่ ?
✨ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร ? ทำไมหลายคนนิยมฉีด
ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid: HA) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายผลิตขึ้นตามธรรมชาติ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ปริมาณ HA จะลดลง ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น เกิดริ้วรอย ร่องลึก และทำให้ใบหน้าดูโทรม
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นการ ฉีดสาร HA กลับเข้าไปในชั้นผิว ด้วยกลไกการทำงานของฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์จะแทรกตัวเข้าไปในชั้นผิว ช่วยดันเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังให้ดูเต็มขึ้น ส่งผลให้ร่องลึกและริ้วรอยดูตื้นขึ้น ใบหน้าเรียบเนียนขึ้น และกระตุ้นเซลล์ผิวหนังให้ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินมากขึ้น ส่งผลให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่น ดูอ่อนเยาว์
ปัจจุบันนิยมใช้ฟิลเลอร์ในการปรับรูปหน้า แก้ปัญหาริ้วรอย เพราะฟิลเลอร์ มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำไว้กับผิว ช่วยให้ผิวอิ่มฟูขึ้น เรียบเนียนขึ้น จึงแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกได้อย่างดี
✨7 บริเวณนิยมฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ ช่วยแก้ปัญหาร่องลึกและปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ทั้งหมดของใบหน้า โดยมี 7 จุดหลักที่นิยมฉีด ได้แก่
- ฟิลเลอร์ใต้ตา: แก้ปัญหาใต้ตาลึก ตาโหล ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา ริ้วรอยใต้ตา ทำให้ใต้ตาดูสดใสขึ้น
- ฟิลเลอร์คาง: เสริมคาง ปรับรูปหน้าให้เรียววีเชฟ เพิ่มความสมส่วนให้กับใบหน้า
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม: ลดร่องแก้มลึกให้ตื้นขึ้น ช่วยให้หน้าดูเด็ก
- ฟิลเลอร์ปาก: เติมเต็มริมฝีปากให้ชุ่มชื้น ดูอวบอิ่ม ปรับรูปปากให้เป็นทรง มีเสน่ห์น่าดึงดูด
- ฟิลเลอร์ขมับ: เติมเต็มขมับให้ใบหน้าหวาน ได้สัดส่วน เสริมโหงวเฮ้งให้ดีขึ้น
- ฟิลเลอร์หน้าผาก: ฉีดเติมเต็มหน้าผากให้นูนเต่งตึง ดูมีมิติ เสริมโหงวเฮ้ง
- ฟิลเลอร์แก้มส้ม: เติมใบหน้าให้อิ่มเอิบ ดูเด็กลง และมีชีวิตชีวา
✨ฟิลเลอร์มีกี่ยี่ห้อ ยี่ห้อไหนเป็นที่นิยม ?
ในปัจจุบัน ฟิลเลอร์ที่ผลิตจากกรดไฮยาลูรอนิก มีหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยมในการใช้งานทั่วโลก แต่ละยี่ห้อก็มีคุณสมบัติเฉพาะที่เหมาะสมกับการใช้งานแตกต่างกันไป ยี่ห้อที่นิยมในประเทศไทย ได้แก่
1. ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm (From USA)
- Juvederm เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา ที่นำเข้าโดยบริษัท Allergan เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง เรียบเนียน และอยู่ได้นาน ด้วยเทคโนโลยี Hylacross ผ่านการรับรองจากอย.ไทยว่าปลอดภัย มีหลายรุ่น เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย
- มีรุ่นที่นิยมใช้ เช่น Juvederm Ultra Plus XC, Juvederm Voluma, Juvederm Volbella, Juvederm Volift, Juvederm Volite, Juvederm Volux
2. ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane (From Sweden)
- Restylane เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์จากประเทศสวิเดน ที่ที่นำเข้าโดยบริษัท Galderma โดดเด่นในเรื่องขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์ ที่มีความคงตัวสูง เหมาะกับการเติมเต็มร่องลึก รอยแก้มตอบ ปรับรูปหน้า เติมเต็มริมฝีปาก และลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก มีหลายรุ่นให้เลือกใช้
- มีรุ่นที่นิยมใช้ เช่น Restylane Perlane lyft, Restylane Vital Light, Restylane Vital, Restylane Volyme, Restylane Defyne, Restylane Refyne, Restylane Classic, Restylane Kysse
3. ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero (From Switzerland)
- Belotero เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่นำเข้าโดยบริษัท Merz Aesthetics มีความโดดเด่นเรื่องเนื้อเจล มีความคงตัวสูง สามารถใช้ฉีดเสริมกระดูกและเนื้อเยื่อผิวหนังที่ยุบตัวลงตามวัยได้ ฉีดแล้วให้ผลลัพธ์เรียบเนียบ ดูเป็นธรรมชาติ
- มีรุ่นที่นิยมใช้ เช่น Belotero Intense, Belotero Volume, Belotero Soft, Belotero Revive
4. ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Teoxane (From Switzerland)
- Teoxane เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่นำเข้ามาในประเทศไทยโดยบริษัทคอสม่า เมดิคอล จำกัด มีเทคโนโลยีเฉพาะ RHA (Resilient Hyaluronic Acid) ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์กลมกลืนไปกับเนื้อผิวได้ดี
- มีรุ่นที่นิยมใช้ เช่น Teoxane RHA 2, Teoxane RHA 3, Teoxane Ultra Deep
5. ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Definisse (From Italy)
- Definisse เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์จากประเทศอิตาลี ที่นำเข้าโดยบริษัท A.Menarini Thailand มีเทคโนโลยี XTR™ (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) ในฟิลเลอร์ช่วยให้ไฮยาลูโรนิกแอซิดสานตัวเป็นร่างแห ยกและปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- มีรุ่นที่นิยมใช้ เช่น Definisse Restore, Definisse Core, Definisse Touch
6. ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Flore (From Korea)
- Flore เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี ที่นำเข้าโดยบริษัท บอน–ซอง จำกัด (Bon-Song Company Limited) มีโมเลกุลขนาดเล็กออกแบบมาเพื่อการฉีดอย่างแม่นยำ ลดก้อนหลังฉีด ผลลัพธ์เรียบเนียนและเป็นธรรมชาติ มีความสามารถอุ้มน้ำสูง ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ดูอิ่มฟูและสดใส
- มีรุ่นที่นิยมใช้ เช่น Flore Max, Flore AQUA-S
7. ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neuramis (From Korea)
- Neuramis เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี ที่นำเข้าโดยบริษัท Medyceles โดดเด่นในเรื่องเนื้อเจลละเอียดและเนียนมาก ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดก้อนหรือบวม ยืดหยุ่นสูง
- มีรุ่นที่นิยมใช้ เช่น Neuramis Volume, Neuramis Deep Lidocaine
ทั้งหมดนี้ เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับการยอมรับ และมีความปลอดภัยสูง ตามมาตรฐานขององค์การอาหารและยา (อย.) ประเทศไทย สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจค่ะ
ยี่ห้อฟิลเลอร์ผ่าน อย. 2024
สำหรับใครที่ต้องการเช็กว่าฟิลเลอร์ยี่ห้อที่ตัวเองสนใจนั้นผ่าน อย. ในปีปัจจุบันหรือยัง สามารถเข้าไปเช็กได้ง่าย ๆ ที่เว็บไซต์ตรวจสอบการอนุญาตของกระทรวงสาธารณสุข โดยใส่ “ชื่อและรุ่นฟิลเลอร์” และค้นหาในหมวดหมู่ “เครื่องมือแพทย์” ค่ะ
อย่างไรก็ตาม การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับความต้องการ ปัญหาผิว และงบประมาณ ควรปรึกษาแพทย์มากประสบการณ์ เพื่อวิเคราะห์สภาพผิวและแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละคนด้วยค่ะ
✨ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ เข้าใจก่อนทำสวย
การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ใช้เวลาในการฉีดไม่นาน หลังทำสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ทันที ซึ่งมีขั้นตอนการฉีดตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ดังนี้
- แพทย์จะตรวจและประเมินสภาพผิว เพื่อวางแผนบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ และปริมาณซีซีที่เหมาะสม
- ทำความสะอาดผิวหน้า เช็ดเครื่องสำอาง บริเวณที่จะฉีด
- ในบางเคส บางตำแหน่งจะมีการแปะยาชา เพื่อลดความรู้สึกเจ็บระหว่างฉีด ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แล้วจึงเช็ดออก
- แพทย์ใช้เข็มขนาดเล็กฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในผิวบริเวณที่ต้องการทำ
- ระหว่างฉีดหรือหลังฉีดแพทย์อาจนวดเบา ๆ บริเวณที่ฉีด เพื่อปรับแต่ง จัดทรงฟิลเลอร์ให้เข้ารูป
- หลังฉีดเสร็จแพทย์ให้ดูผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลง พร้อมให้คำแนะนำการดูแลหลังฉีด
- รับยาแก้ปวด หรือยาฆ่าเชื้อ พร้อมกล่องตัวยาฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดไปกลับบ้าน (ขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก)
- สามารถกลับบ้าน ดูแลตัวเองตามคำแนะนำ และใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้เลย
- รอนัดติดตามผล เพื่อประเมินผลหลังฉีดฟิลเลอร์
✨การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน
หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรงดการสัมผัส กด นวด หรือนอนตะแคงข้างที่ฉีด เพื่อลดการกดทับ และการอักเสบ นอกจากนี้ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน การสูบบุหรี่ ออกแรงหนัก ๆ การอบซาวน่า เพื่อลดอาการบวม ช้ำ แนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์ทำงานเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
ในกรณีที่รู้สึกปวด หรือต้องการลดบวม สามารถประคบเย็นได้ แต่ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
การดูแลเหล่านี้จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานและช่วยให้ผิวหน้าดูเป็นธรรมชาติ ลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียง
✨ฉีดฟิลเลอร์ กี่วันเห็นผล ? บวมนานแค่ไหน ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละบริเวณ จะสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ภายใน 2 สัปดาห์ อาการบวมจะค่อย ๆ ยุบลง ภายใน 4-5 วัน และหายได้เองภายใน 7-14 วัน
ทั้งนี้ หากมีอาการบวมนานผิดปกติเกินกว่าเวลาดังกล่าว ควรรีบกลับมาพบแพทย์
✨ฉีดฟิลเลอร์ มีผลข้างเคียงและความเสี่ยงที่ควรระวัง อะไรบ้าง ?
ผลข้างเคียงโดยปกติ หลังฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ทำโดยแพทย์มากประสบการณ์ และใช้ฟิลเลอร์แท้นั้น ส่วนใหญ่จะมีเพียงอาการบวม เป็นรอยแดง หรือเขียวช้ำ จากเข็มหรือฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีด ซึ่งสามารถหายไปเองภายใน 4-5 วัน
อย่างไรก็ตาม อาจมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่ต้องระวัง หากพลาดไปฉีดกับหมอเถื่อน หมอกระเป๋า ในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์ปลอม เช่น
- การติดเชื้อ หากไม่รักษาความสะอาดอาจเกิดการติดเชื้อที่บริเวณฉีดฟิลเลอร์
- อาการแพ้ บางคนอาจมีปฏิกิริยาแพ้ต่อฟิลเลอร์หรือยาชาที่ใช้ระหว่างการฉีด รวมถึงมีอาการ คัน, ผื่น, หรือบวมที่รุนแรง
- ปัญหาจากการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์อาจเคลื่อนที่จากตำแหน่งที่ฉีดไปยังส่วนอื่นของใบหน้า ทำให้เกิดปัญหาฟิลเลอร์ไหล ไม่อยู่ในบริเวณที่ต้องการ
- ปัญหาจากการอุดตันของหลอดเลือด ถ้าฟิลเลอร์ถูกฉีดเข้าไปในหลอดเลือดอาจทำให้เลือดไหลเวียนไม่ได้ ส่งผลให้เนื้อเยื่อตายและสูญเสียการมองเห็นในกรณีร้ายแรง
- ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมชาติ หากการฉีดฟิลเลอร์ไม่สม่ำเสมอหรือใช้ฟิลเลอร์มากเกินไปอาจทำให้ได้รูปทรงหน้าที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ
อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม
ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้ ควรเลือกคลินิกและแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงและมีความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์ พร้อมทั้งตรวจสอบใบอนุญาตให้แน่ใจว่าผ่านมาตรฐานการรับรอง
✨ทริคเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ ให้ปลอดภัย ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาหลังฉีด
การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ดีและมีมาตรฐาน เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงอันตรายซึ่งควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
1. ความน่าเชื่อถือของคลินิกฉีดฟิลเลอร์
- ตรวจสอบป้ายชื่อคลินิกและใบอนุญาตประกอบกิจการ 11 หลัก
- คลินิกควรมีห้องทำหัตถการที่ได้มาตรฐาน สะอาด
- คลินิกมีหลายสาขา เดินทางง่าย สะดวกต่อการเข้าถึง
- สอบถามผู้เคยใช้บริการ หรืออ่านรีวิวจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
2. ประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ผู้ฉีดฟิลเลอร์
- ควรเป็นแพทย์จริง สามารถตรวจสอบ ชื่อ-นามสกุล หรือเลขว. ได้ที่เว็บไซต์แพทยสภา
- ควรเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า
- ผ่านการเทรนนิ่ง อบรม อัปเดตความรู้ใหม่อยู่เสมอ
- แพทย์มีเคสรีวิวก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์ให้พิจารณาผลลัพธ์ จากคนไข้ที่เคยฉีดจริง
3. ฟิลเลอร์ที่ใช้ได้คุณภาพ ปลอดภัย
- ใช้ฟิลเลอร์แท้ อนุญาตให้ตรวจสอบได้ แพทย์กล้าแกะกล่องตัวยาให้ดูต่อหน้า พร้อมชี้แจงรายละเอียด เช่น เลขทะเบียน อย. ,เอกสารกำกับภาษาไทย ,เลข lot ที่กล่อง ซอง สติกเกอร์ และหลอด 4 จุด ที่ต้องตรงกัน หรือสแกน QR Code เพื่อตรวจสอบก่อนฉีด
- หลังฉีด คนไข้ต้องสามารถขอกล่องตัวยาฟิลเลอร์ที่ฉีดกลับบ้านได้
4. การนำเสนอข้อมูลและให้คำปรึกษาอย่างละเอียดก่อนฉีดฟิลเลอร์
- แพทย์ควรสอบถามประวัติ อธิบายรายละเอียดอย่างครบถ้วน พร้อมแจ้งข้อควรระวังต่าง ๆ
- แนะนำฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยสูง เหมาะสมกับลักษณะสภาพผิวและปัญหาบนใบหน้า
5. การให้บริการก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างดี
- ควรได้รับคำแนะนำการดูแลผิวหน้าก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์
- มีการนัดติดตามประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ
6. ราคาค่าบริการที่เหมาะสมในการฉีดฟิลเลอร์
- ควรสอบถามราคาค่าบริการและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ
- ไม่ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์เพราะราคาถูกเกินไป อาจเสี่ยงต่อคุณภาพและความปลอดภัย
✨Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์ เจ็บไหม ?
ในการฉีดฟิลเลอร์อาจ รู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด และความไวต่อความรู้สึกของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปก่อนทำจะมีการแปะยาชาบริเวณที่ฉีดให้ก่อน 30 นาที หรือประคบเย็นระหว่างฉีด เพื่อบรรเทาอาการเจ็บ นอกจากนี้ในตัวยาฟิลเลอร์บางรุ่นก็มียาชาผสมอยู่ด้วย สำหรับคนที่กลัวเจ็บมาก ๆ ไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม ?
ฉีดฟิลเลอร์ไม่อันตราย หากฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ผู้ที่มีประสบการณ์และมีความชำนาญในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยเกิดขึ้นได้ อย่างอาการบวม และมีรอยแดงหรือเขียวช้ำ ในจุดฉีด ซึ่งเป็นอาการที่ไม่รุนแรงและสามารถหายไปเองได้ภายในไม่กี่วัน
ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ ?
ผู้ที่ควรงดการฉีดฟิลเลอร์ไปก่อน ได้แก่
- ผู้ที่มีการอักเสบ ติดเชื้อ ที่ผิวหนัง บริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ฟิลเลอร์
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ยา ควรปรึกษากับแพทย์ก่อน
- ผู้ที่อยู่ในภาวะเลือกไหลไม่หยุด (Bleeding Disorders) แพทย์จะพิจารณาตามดุลยพินิจ
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
ผู้ที่ไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์
✨ฉีดฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่ ?
ราคาเริ่มต้นในการฉีดฟิลเลอร์มาตรฐานจะอยู่ที่ประมาณ 7,500 – 18,000 บาท ต่อซีซี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้ บริเวณที่ทำ จำนวนซีซีที่ฉีด และคลินิกที่ให้บริการ
สำหรับผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ แนะนำให้สอบถามราคากับคลินิกที่สนใจอย่างละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย และไม่ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่มีราคาถูกจนเกินไป เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงอันตราย ทำแล้วไม่คุ้มค่า ไม่ปลอดภัย และอาจต้องหาวิธีแก้ไขให้ยุ่งยากในภายหลัง
✨สรุป ฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ คือสารเติมเต็มร่องลึกเพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ สำหรับผู้ฉีดครั้งแรกจำเป็นต้องเลือกคลินิก เลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ ทำกับแพทย์ผู้ชำนาญ ศึกษาข้อมูลก่อนฉีดฟิลเลอร์ให้ดี เปิดเผยประวัติการแพ้และโรคประจำตัว เข้าใจขั้นตอนการฉีด ทำความรู้จักผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงราคาค่าบริการอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ เพื่อความปลอดภัย การเห็นผลลัพธ์ที่ดี มีความคุ้มค่า
Beauty Hunter มีอีกหลายบทความที่น่าสนใจ ตามไปอ่านต่อกันเลยค่ะ
- “ซีรี่ส์เกาหลี” ตลก ขำน้ำตาเล็ด คลายเครียดกันหน่อยจ้า!!
- ทริคเลือก “รองเท้า” แบบไหน ใส่แล้วขาเรียว ยาว!!
- “ซีรีส์เกาหลี” หมอหล่อ บอกต่อด้วยจ้า!!
- 7 “หนังผี” สยองขวัญไทย หลอนจนเป็นตำนาน
- “ซงคัง” ซีรี่ส์ที่แฟนตัวจริงห้ามพลาด! ปังทุกเรื่อง!
- “น้ำหอม” ตัวไหนที่ดาราใช้ มีอะไรบ้าง?
- พระเอก”ซีรี่ย์จีน”มาแรง 10 อันดับ(เปิดวาป)
- 8 “ซีรี่ส์เกาหลี” สุดปังของพระเอกสุดฮอต “จงซอก” ที่ห้ามพลาด!!
- มัดรวม15 “ซีรีส์จีน” มาแรงครบรสใน WeTV ไม่ดูไม่ได้!!
- “หนังซอมบี้” 12 เรื่องหนีตายแบบลุ้นระทึกทั้งเรื่อง ไม่ดูไม่ได้!!
- “แต่งหน้าเกาหลี” 7 เทคนิคสำหรับสาวหน้าฝอ
- “โซจู” 7 สูตรผสมยอดฮิต อร่อย กินง่าย!!
- “บอร์ดเกม” สายบลัฟ ทำลายมิตรภาพ
ติดตามอัพเดทต่าง ๆ ได้ที่นี่เลยจ้า FB: Beauty Hunter (Thailand)