“ฉีดสิว” ยุบจริงไหม ? ทางลัดที่คนอยากสิวหายเร็วต้องรู้ ‼️✨
ฉีดสิว
การฉีดสิวเป็นทางเลือกที่หลายคนเลือกใช้ แม้จะรู้สึกเจ็บนิดหน่อย แต่เพราะช่วยฟื้นฟูผิวหน้าและรักษาได้เร็ว ทำให้มันกลายเป็นทางลัดที่ฮิตมากในตอนนี้ โดยเฉพาะกับคนที่สิวเรื้อรังหรือไม่หายจากการใช้ผลิตภัณฑ์ทั่วไป Beauty Hunter นี้จะพามาเจาะลึกทุกคำถามที่คุณอาจสงสัย ตั้งแต่ การฉีดสิวคืออะไร ฉีดบ่อยเป็นอะไรไหม ไปจนถึง ‘ทำให้หายไวได้ยังไง?’ แถมยังช่วยคุณตัดสินใจว่าระหว่างการฉีดสิวกับกดสิวแบบไหนดีกว่ากัน พร้อมวิธีดูแลผิวหลังฉีดสิวเพื่อไม่ให้สิวกลับมาอีก ปรับผิวสวยเป๊ะปังให้มันคงอยู่กับเราไปนาน ๆ
ฉีดสิวคืออะไร ? มารู้จักตัวช่วยลดสิวแบบเร่งด่วน
การฉีดสิว (Acne Injection) คือ วิธีรักษาสิวอักเสบ ที่มีอาการบวมแดง หรือสิวเป็นไต เมื่อจับแล้วรู้สึกเป็นก้อนแข็ง โดยการฉีดยาผ่านผิวหนังเจาะจงไปที่บริเวณสิว ซึ่งต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือแพทย์ผิวหนังเท่านั้น เพื่อประเมินระดับปัญหาสิวให้สอดคล้องกับตัวยาและปริมาณยาในการฉีดให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี สิวยุบไวและปลอดภัยไปพร้อมกัน
ฉีดสิวใช้ยาอะไร? อันตรายหรือไม่ ?
การฉีดสิวมักจะใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ (Steroid) ที่มีชื่อเสียงอย่าง Triamcinolone acetonide หรือที่รู้จักกันในชื่อทางการค้า Kenalog® ซึ่งจะช่วยลดอาการอักเสบและบวมของสิวที่อักเสบอย่างรุนแรง โดยทำให้สิวยุบเร็วขึ้นและช่วยลดโอกาสที่สิวจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้ได้ด้วย Triamcinolone Acetonide (TAC) นี่แหละคือยาที่ใช้กันบ่อยที่สุดในการฉีดสิว ออกฤทธิ์ลดการอักเสบของสิวได้ดีมาก และโดยปกติแล้วจะต้องใช้การฉีดนี้จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการใช้งานยาเหล่านี้
ฉีดสิวช่วยให้สิวหายเร็วจริงไหม ?
สาเหตุสิวหายไวหลังฉีดสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบหรือสิวที่มีการบวมแดง และเจ็บ นั่นก็เพราะตัวยา Triamcinolone Acetonide จะเข้าไปลดการหลั่งสารที่ทำให้เกิดการบวมและการอักเสบในบริเวณที่มีสิว โดยมีกระบวนการรักษาดังนี้
-
ลดการอักเสบ
ยาจะช่วยยับยั้งการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่ทำให้เกิดการอักเสบและบวมในสิว
-
บรรเทาความเจ็บปวด
เมื่อการอักเสบลดลง สิวจะไม่เจ็บหรือแดงเหมือนเดิม
-
สิวยุบตัวเร็ว
ยาจะช่วยให้สิวยุบลงเร็วขึ้น เพราะมันช่วยลดขนาดของสิวและขจัดหนองหรือสารคัดหลั่งภายในสิว
ฉีดสิว vs กดสิว อะไรดีกว่ากัน ?
การฉีดสิวและกดสิว ทั้งสองวิธีมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของสิวและอาการเจาะจงที่ต้องการรักษา
-
การฉีดสิว (Acne Injection)
เหมาะกับ: คนที่เป็นสิวรุนแรง เช่น สิวอักเสบ, สิวตุ่มหนอง, สิวซีสต์และสิวหัวช้าง
กระบวนการทำงาน: แพทย์จะฉีดยาเข้าไปตรงบริเวณที่มีสิวอักเสบ เพื่อลดการบวมและการอักเสบ ทำให้สิวยุบเร็ว
ข้อดี: ช่วยให้สิวหายเร็ว ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
ข้อเสีย: ต้องไปหาหมอ และไม่เหมาะกับทุกประเภทของสิว
-
การกดสิว (Acne Removal)
เหมาะกับ: คนที่เป็นสิวอุดตันหรือสิวที่ไม่อักเสบมาก
กระบวนการทำงาน: ใช้เครื่องมือหรือมือในการกดสิวเพื่อเอาสิ่งสกปรกและน้ำมันออกจากรูขุมขน
ข้อดี: ช่วยลดการอุดตันและป้องกันสิวใหม่
ข้อเสีย: หากกดไม่ถูกวิธี อาจทำให้สิวอักเสบหรือทิ้งรอยแผลเป็น
ฉีดสิวเจ็บไหม? มีผลข้างเคียงหรือเปล่า ?
การฉีดสิวมักจะไม่เจ็บมาก แต่ในช่วงที่เข็มฉีดยาไปโดนผิวหนังหรือบริเวณที่สิวอักเสบ อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย เพราะบริเวณนั้นมีอาการปวดอยู่แล้ว แต่โดยรวมแล้วไม่ได้เจ็บจนทนไม่ได้ สำหรับผลข้างเคียงที่อาจพบได้บ่อยคืออาการ บวมแดง ที่จุดฉีดหลังการรักษา ซึ่งจะหายไปในไม่กี่วัน อย่างไรก็ตาม หากฉีดสิวกับผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ หรือไม่ใช่แพทย์ผิวหนังที่มีประสบการณ์ อาจเสี่ยงเจอผลข้างเคียงที่รุนแรงขึ้น เช่น ผิวบาง หรือ รอยแผลเป็น
ฉีดสิวแล้วหน้าบาง เกิดจากอะไร?
การฉีดสิว โดยเฉพาะการใช้ยาสเตียรอยด์ในการรักษาสิวอักเสบ อาจทำให้ผิวบางลงได้ โดยเฉพาะกรณีที่ใช้ยาสเตียรอยด์บ่อย ๆ หรือใช้ในปริมาณมากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผิวสูญเสียความหนาแน่น และอาจทำให้เกิดการระคายเคืองง่ายขึ้น รวมถึงเสี่ยงต่อการเกิดรอยแผลเป็นในอนาคต
ฉีดสิวแล้วต้องดูแลยังไงไม่ให้เป็นซ้ำ?
แม้ว่าการฉีดสิวจะช่วยรักษาสิวให้ยุบไวขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะจบแค่นั้น เพราะหากไม่ใช้ตัวช่วยอย่างวิธีดูแลผิวหลังฉีดสิวที่ถูกต้อง ผลที่ได้อาจกลับมาเป็นซ้ำ หรือทำให้ผิวแย่ลงกว่าเดิม
-
หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือขยี้ผิว
ควรหลีกเลี่ยงการจับ บีบ หรือขยี้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและไปกระตุ้นให้สิวเกิดขึ้นใหม่
-
รักษาความสะอาดผิว
ควรทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยนด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ไม่ควรใช้สบู่ที่แรงหรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง
-
ทาครีมบำรุงผิว
การทาครีมที่ช่วยฟื้นฟูผิว เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินซีหรือเซราไมด์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
-
หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีสารอุดตัน
เครื่องสำอางบางชนิดอาจมีส่วนผสมที่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน ควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่ระบุว่า “Non-Comedogenic” หรือ “ไม่ทำให้เกิดสิว”
-
หลีกเลี่ยงแสงแดด
หลังฉีดสิวควรหลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรง เนื่องจากแสงแดดอาจทำให้ผิวระคายเคืองและมีความเสี่ยงต่อการเกิดสิวขึ้นใหม่
-
ดื่มน้ำมาก ๆ และรักษาผิวให้ชุ่มชื้น
การดื่มน้ำให้เพียงพอ 2-3 ต่อวัน ช่วยให้ร่างกายและผิวฟื้นฟูได้เร็วขึ้น
-
ไปพบแพทย์ตามนัด
หากแพทย์แนะนำการติดตามผลหรือการรักษาเพิ่มเติม ควรไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อการรักษาที่ต่อเนื่องและหายสนิท
✨ สรุป ฉีดสิวหายไว ไม่เจ็บตัวอย่างที่คิด
แต่การฉีดสิวควรทำกับแพทย์ผิวหนังโดยเฉพาะ เนื่องจากตัวยาที่ใช้จะสามารถเบิกได้เฉพาะแพทย์เท่านั้น และแพทย์จะมีทักษะในการประเมินปริมาณยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคนอย่างดีที่สุด นอกจากนี้ ผู้ป่วยยังจะได้รับคำแนะนำในการดูแลผิวหลังฉีดสิวอย่างถูกวิธี โดยไม่ต้องเสี่ยงลองผิดลองถูก ซึ่งอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือสิวกลับมาเป็นซ้ำได้ ดังนั้นเมื่อรู้แบบนี้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกคลินิกรักษาสิวที่ได้มาตรฐาน และเข้ารับการรักษากับแพทย์ผิวหนังที่มีประสบการณ์สูงได้เลย
Beauty Hunter มีอีกหลายบทความที่น่าสนใจ ตามไปอ่านต่อกันเลยค่ะ
- “ซีรี่ส์เกาหลี” ตลก ขำน้ำตาเล็ด คลายเครียดกันหน่อยจ้า!!
- ทริคเลือก “รองเท้า” แบบไหน ใส่แล้วขาเรียว ยาว!!
- “ซีรีส์เกาหลี” หมอหล่อ บอกต่อด้วยจ้า!!
- 7 “หนังผี” สยองขวัญไทย หลอนจนเป็นตำนาน
- “ซงคัง” ซีรี่ส์ที่แฟนตัวจริงห้ามพลาด! ปังทุกเรื่อง!
- “น้ำหอม” ตัวไหนที่ดาราใช้ มีอะไรบ้าง?
- พระเอก”ซีรี่ย์จีน”มาแรง 10 อันดับ(เปิดวาป)
- 8 “ซีรี่ส์เกาหลี” สุดปังของพระเอกสุดฮอต “จงซอก” ที่ห้ามพลาด!!
- มัดรวม15 “ซีรีส์จีน” มาแรงครบรสใน WeTV ไม่ดูไม่ได้!!
- “หนังซอมบี้” 12 เรื่องหนีตายแบบลุ้นระทึกทั้งเรื่อง ไม่ดูไม่ได้!!
- “แต่งหน้าเกาหลี” 7 เทคนิคสำหรับสาวหน้าฝอ
- “โซจู” 7 สูตรผสมยอดฮิต อร่อย กินง่าย!!
- “บอร์ดเกม” สายบลัฟ ทำลายมิตรภาพ