อยากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี❓ที่นี่มีคำตอบ พร้อมข้อควรรู้ก่อนฉีด
มีปัญหาใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ เหมือนหมีแพนด้า อยาก ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ตามที่หลาย ๆ คนแนะนำ แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี มีข้อกังวลหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย ✨วันนี้ Beauty Hunter จะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสำหรับใครอยากแก้ปัญหาใต้ตาแบบเห็นผลเร็ว ปลอดภัย สามารถศึกษาข้อมูลเหล่านี้ก่อนตัดสินใจได้เลย!
💉 สารบัญ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ?
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ?
- ตอบไขข้อสงสัย ทำไมบางคนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน ?
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาอะไรได้บ้าง ?
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรใช้กี่ซีซี (CC) ?
- ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ใครเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ?
- ใครไม่เหมาะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ?
- การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม ?
- เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ?
- ยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ใต้ตา From ยุโรป
- ยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ใต้ตา From เอเชีย
💉ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) หรือที่เรียกว่า “HA” ซึ่งมีความปลอดภัย ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของไทย ยุโรป และ สหรัฐอเมริกา เข้าไปบริเวณใต้ตา เพื่อเติมเต็มผิวหนังบริเวณใต้ตาให้ดูตื้นขึ้น ชุ่มชื้นขึ้น ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาลึก ตาโหล ขอบตาดำ ลดถุงใต้ตา และลดริ้วรอยใต้ตา ได้อย่างตรงจุด ที่สำคัญสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีด
💉ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ?
คำถามนี้ หลายคนอยากทราบคำตอบแบบฟันธง ขอตอบว่า การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่อันตรายอย่างที่หลายคนเข้าใจ หากเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ผ่าน อย.
ในทางกลับกัน หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ หรือแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ คลินิกไม่ได้มาตรฐาน คลินิกเถื่อน หมอเถื่อน หมอกระเป๋า หรือบุคคลที่ไม่มีความรู้ในด้านการฉีดฟิลเลอร์ แน่นอนว่าอันตรายค่ะ แล้วยิ่งพลาดไปฉีดฟิลเลอร์ปลอมราคาถูก เช่น ซิลิโคนเหลว พาราฟิน อาจทำให้เกิดการอักเสบ บวม หรือร้ายแรงถึงขั้นตาบอด
หากอยากแก้ปัญหาใต้ตา แบบเห็นผล ปลอดภัย ไม่เสี่ยงก่อนฉีดควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและตัดสินใจเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีใบประกอบการถูกต้อง มีรีวิวที่ดีเท่านั้นค่ะ
💉ตอบไขข้อสงสัย ทำไมบางคนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน ?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาแล้วไม่สวย เป็นก้อน บวม เป็นอีกข้อสงสัยหนึ่ง ที่หลายคนกังวล เพราะไม่มีใครอยากเจอประสบการณ์แบบนี้
ทำไมบางคนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาแล้วเป็นก้อน ?
- เพราะเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ไม่พอ : แพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์หรือความชำนาญเพียงพอ อาจฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณหรือจุดที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดการเป็นก้อน
- เพราะใช้ฟิลเลอร์ผิดรุ่น : การเลือกฟิลเลอร์รุ่นที่ไม่เหมาะสมกับบริเวณใต้ตา ซึ่งมีผิวหนังบาง อาจทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อน นูนขึ้นมาได้
- เพราะใช้ฟิลเลอร์ปลอม : ปัจจุบันกรณีนี้พบได้น้อยค่ะ สมัยก่อนจะมีการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ใช่ HA หรือฟิลเลอร์ปลอมมาฉีด ซึ่งไม่สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ทำให้เป็นก้อนหรือไหลย้อยเมื่อเวลาผ่านไป
จะเห็นว่าปัญหาหลัก ๆ ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน มาจากแพทย์ผู้ฉีดเป็นสำคัญ หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เลือกยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ และปริมาณที่เหมาะกับสภาพปัญหาและลักษณะผิวของเรา ฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง ปัญหาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน ก็จะไม่เกิดค่ะ
💉ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาอะไรได้บ้าง ?
เมื่อรู้แล้วจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ดี ปลอดภัย คราวนี้มีดู การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถช่วยแก้ปัญหาใต้ตาแบบใดได้บ้าง เพื่อเช็กตัวเองเบื้องต้นว่า ปัญหาของเราเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหรือไม่ ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ดังนี้
✓ ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาลึก เบ้าตาลึก ตาโหล
ใต้ตาลึกเห็นเป็นเบ้าลึก เกิดจากพันธุกรรม ขาดวิตามิน หรืออายุที่เพิ่มขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเติมบริเวณที่ยุบตัวให้ดูเต็มขึ้น ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น
✓ ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาดำ
ใต้ตาคล้ำทำให้ใบหน้าดูโทรมและเหนื่อย สาเหตุเกิดจากพันธุกรรม โรคภูมิแพ้ การขยี้ตาเป็นประจำ และการนอนน้อย การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยลดความคล้ำและความดำได้
✓ ช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย
ถุงใต้ตาเกิดจากการตกลงของไขมันและเนื้อเยื่อบริเวณใต้ตา ทำให้เกิดรอยนูนหรือร่องลึก เมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในร่องนั้น จะช่วยเติมเต็มทำให้เต่งตึงและกระชับขึ้น รอยถุงใต้ตาจึงจางลงไป
✓ ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา รอยย่นใต้ตา
ริ้วรอยใต้ตาเกิดจากการลดลงของคอลลาเจนและอีลาสติน การแสดงอารมณ์ซ้ำ ๆ การขยี้ตาบ่อย ๆ หรืออาการภูมิแพ้ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยให้ผิวบริเวณรอบดวงตาดูเรียบเนียน ริ้วรอยจางลง ใต้ตาดูอิ่มเต็ม สดใสมากขึ้น
💉ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรใช้กี่ซีซี (CC) ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตา จะใช้หน่วยปริมาณเป็น Cubic Centimeter (CC) หรือ ลูกบาศก์เซนติเมตร โดยปริมาณที่ใช้มักอยู่ระหว่าง 2-4 CC สำหรับใต้ตาทั้งสองข้าง ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ในแต่ละเคส
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ แพทย์จะพิจารณาตามโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคน สำหรับผู้ที่มีอายุมาก โครงหน้าและเนื้อเยื่อที่ยุบตัวลงเป็นร่องลึกมาก อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 4 CC แต่ในบางกรณีที่ต้องการเติมเพื่อให้หน้าดูเด็กและสดใสขึ้น อาจใช้ฟิลเลอร์เพียง 2 CC เท่านั้น
⭕️ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- เห็นผลได้ทันทีหลังฉีดเสร็จ และเห็นผลลัพธ์เต็มที่ใน 14 วัน
- อยู่ได้นาน 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นฟิลเลอร์ที่ใช้
- ไม่ต้องพักฟื้น หลังฉีดสามารถกลับไปทำกิจกรรมปกติได้ทันที
- มีขั้นตอนการทำไม่ซับซ้อน ใช้เวลาน้อย มีความสะดวก
- ปรับใบหน้าโดยรวมให้ดูอ่อนเยาว์ สดใสขึ้น ดูเรียบเนียน มีมิติ
- เพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้ผิวใต้ตา ดูอิ่มน้ำ สุขภาพดี
- สามารถแก้ปัญหาใต้ตาที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ
❌ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- อาจเกิดอาการบวม แดง หรือช้ำหลังทำ ซึ่งมักจะหายไปเองในไม่กี่วัน
- อยู่ได้ไม่ถาวร ต้องฉีดเติมใหม่เมื่อฟิลเลอร์สลาย
- หากฉีดไม่ถูกวิธีกับแพทย์ไม่มีประสบการณ์ อาจเสี่ยงฟิลเลอร์เป็นก้อนหรือเคลื่อนที่
💉ใครเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ เบ้าตาลึก ถุงใต้ตาหย่อนคล้อย หรือมีริ้วรอยรอบดวงตา ซึ่งทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและแก่กว่าวัย ต้องการลดอายุ อยากดูเด็กลงแบบธรรมชาติ เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนาน การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยเติมเต็มบริเวณใต้ตาทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนกว่าวัยขึ้น จึงเป็นตำแหน่งแรกที่หมอหลาย ๆ คน แนะนำให้แก้ไข
💉ใครไม่เหมาะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ?
- ผู้ที่มีประวัติแพ้สาร Hyaluronic Acid ต้องหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ผู้มีประวัติแพ้ยา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด
- ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาเยอะมาก ๆ การแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์อาจไม่เพียงพอ ต้องผ่าตัด
- ผู้ที่อยู่ในภาวะเลือดไหลไม่หยุด แพทย์จะพิจารณาก่อนฉีดเป็นรายเคส
- ผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือดและผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด
- ผู้ที่มีการอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์ ควรรักษาให้หายก่อนฉีด
- สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร ควรเลื่อนการฉีดฟิลเลอร์ออกไปก่อน
💉การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรดูแลและเตรียมตัวเองให้พร้อม ดังนี้
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างละเอียด
- เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะ
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด
- งดทานยาที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น แอสไพริน, NSAIDs, วิตามิน St. Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
- งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนฉีด
- หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่กำลังทานอยู่ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำ
💉ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินปัญหาและเลือกชนิดฟิลเลอร์
- สามารถแต่งหน้ามาได้ แต่จะมีการทำความสะอาดบริเวณใต้ตาในจุดที่จะฉีดก่อน
- แปะยาชา และรอให้ยาออกฤทธิ์ ประมาณ 30 นาที
- หมอทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ขณะฉีดจะอยู่ในท่านั่งหรือนอนเอียง ที่ระดับหัวอยู่สูงกว่าหัวใจ เพื่อไม่ให้เลือกออกมากขึ้น
💉การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาจมีอาการบวมบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายไปเองภายใน 3-7 วัน แพทย์จะให้ยาแก้ปวดและยาลดอาการบวมมาให้ นอกจากนี้ ควรดูแลตัวเอง ดังนี้
- งดจับ กด นวด ถู และขยับใบหน้ามาก ในช่วง 3 วันแรกหลังฉีด เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อน
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูสวย อยู่ใต้ผิวได้ยาวนานขึ้น
- ควรอยู่ในที่อากาศเย็น ๆ และหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดหรือกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง 2 วัน เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด
- งดทำเลเซอร์ที่ผิวหน้าอย่างน้อย 1 เดือน
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
💉ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาจทำให้รู้สึกเจ็บเล็กน้อยในขณะที่เข็มถูกฉีดเข้าไปในผิว แต่แพทย์จะใช้ยาชาทาบริเวณที่ฉีดก่อนเพื่อช่วยลดความเจ็บปวด นอกจากนี้ ฟิลเลอร์บางรุ่นยังมีส่วนผสมของยาชาอยู่ในตัว ทำให้รู้สึกเจ็บน้อยลงระหว่างการฉีด หลังฉีดอาจมีอาการบวมและรอยเข็มเกิดขึ้นได้เล็กน้อยบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาการจะหายไปเองภายใน 2-3 วัน
💉เลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ?
การเลือกว่าจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ขึ้นอยู่กับแพทย์ ตามการพิจารณาจากสภาพผิวและปัญหาของแต่ละเคส โดยยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ที่แพทย์นิยมใช้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทั้งจากฝั่งยุโรปและเอเชีย ได้แก่
💉ยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ใต้ตา From ยุโรป
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Juvederm จากประเทศอเมริกา
- Juvederm Voluma ฟิลเลอร์เนื้อทน ฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะฉีดใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Juvederm Volite ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ ใช้เติมใต้ตาชั้นตื้น เหมาะกับคนผิวบางแต่ไม่มากเกินไป อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
- Juvederm Volux ฟิลเลอร์เนื้อทน มีความยืดหยุ่นและคงรูปได้ดี เหมาะฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้นาน 18-24 เดือน
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Restylane จากประเทศสวีเดน
- Restylane Defyne ฟิลเลอร์เนื้อทน แน่นปานกลาง มีความยืดหยุ่นและอุ้มน้ำได้ดี อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Restylane Vital Light ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ ละเอียดมากที่สุด เหมาะฉีดร่องใต้ตาชั้นบน เก็บรายละเอียดริ้วรอยเล็ก ๆ ใต้ตาชั้นตื้น ให้ดูเรียบเนียน อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- Restylane Vital ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับเก็บรายละเอียดใต้ตาชั้นตื้น ให้ผลเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Perlane lyft ฟิลเลอร์เนื้อแน่น มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Restylane Classic ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ใช้เก็บรายละเอียดใต้ตาชั้นลึกในคนที่มีผิวบาง อยู่ได้นาน 12 เดือน
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์
- Belotero Volume ฟิลเลอร์เนื้อแน่น ฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นและคงตัวสูง เหมาะฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Belotero Revive ฟิลเลอร์เนื้อฉ่ำ มีส่วนประกอบของกลีเซอรอล ช่วยเพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื้น ลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
- Belotero Soft ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับฉีดใต้ตาชั้นตื้น เรียบเนียนไปกับผิว อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Teoxane จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์
- Teoxane RHA 2 ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด กลืนกับผิวได้ดี เหมาะสำหรับฉีดใต้ตาชั้นตื้น อยู่ได้นาน 18 เดือน
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Definisse จากประเทศอิตาลี
- Definisse Touch ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เนียนละเอียด เหมาะสำหรับฉีดใต้ตาชั้นตื้น อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
💉ยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ใต้ตา From เอเชีย
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Flore จากประเทศเกาหลี
- Flore AQUA-S ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด มีโมเลกุลเล็ก ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา อยู่ได้นาน 6 เดือน
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neuramis จากประเทศเกาหลี
- Neuramis Volume ฟิลเลอร์เนื้อแน่น แต่กลืนกับผิวได้ดี มีความยืดหยุ่น เหมาะสำหรับฉีดใต้ตาชั้นลึก อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
ทั้งหมดนี้ เป็นยี่ห้อ/รุ่นฟิลเลอร์ใต้ตา ที่แพทย์นิยมใช้ ก่อนตัดสินใจทุกครั้งควรเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ ที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก อย. เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
💬 สรุป ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมาก ในการแก้ไขปัญหาใต้ตาอย่างเห็นผลรวดเร็ว หากเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน และศึกษาข้อมูล เตรียมตัวให้พร้อมก่อนตัดสินใจทำ จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ทำให้ใต้ตาสดใสขึ้น ดูเด็กลง อย่างเป็นธรรมชาติ
Beauty Hunter มีอีกหลายบทความที่น่าสนใจ ตามไปอ่านต่อกันเลยค่ะ
- “ซีรี่ส์เกาหลี” ตลก ขำน้ำตาเล็ด คลายเครียดกันหน่อยจ้า!!
- ทริคเลือก “รองเท้า” แบบไหน ใส่แล้วขาเรียว ยาว!!
- “ซีรีส์เกาหลี” หมอหล่อ บอกต่อด้วยจ้า!!
- 7 “หนังผี” สยองขวัญไทย หลอนจนเป็นตำนาน
- “ซงคัง” ซีรี่ส์ที่แฟนตัวจริงห้ามพลาด! ปังทุกเรื่อง!
- “น้ำหอม” ตัวไหนที่ดาราใช้ มีอะไรบ้าง?
- พระเอก”ซีรี่ย์จีน”มาแรง 10 อันดับ(เปิดวาป)
- 8 “ซีรี่ส์เกาหลี” สุดปังของพระเอกสุดฮอต “จงซอก” ที่ห้ามพลาด!!
- มัดรวม15 “ซีรีส์จีน” มาแรงครบรสใน WeTV ไม่ดูไม่ได้!!
- “หนังซอมบี้” 12 เรื่องหนีตายแบบลุ้นระทึกทั้งเรื่อง ไม่ดูไม่ได้!!
- “แต่งหน้าเกาหลี” 7 เทคนิคสำหรับสาวหน้าฝอ
- “โซจู” 7 สูตรผสมยอดฮิต อร่อย กินง่าย!!
- “บอร์ดเกม” สายบลัฟ ทำลายมิตรภาพ
ติดตามอัพเดทต่าง ๆ ได้ที่นี่เลยจ้า FB: Beauty Hunter (Thailand)