เรื่องราวการท่องไปในโลกของกาลเวลา หรือ การเดินทางย้อนเวลากลับไปในอดีต ดูเหมือนจะเป็นเค้าโครงเรื่องราวที่เกิดจากจินตนาการของมนุษย์เรื่องหนึ่ง ที่เรามักจะคุ้นเคย ได้ผ่านหูผ่านตากันมาอยู่เสมอจากอิทธิพลของนิยาย หนังละคร ไปจนถึงการ์ตูนต่างๆ ที่สร้างความฉงนสงสัยปนความสนุกสนานกันมาตั้งแต่วัยเด็ก และเราก็เชื่อว่าหลายคนก็ยังคงตื่นเต้นกับเรื่องราวทำนองนี้อยู่เสมออีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่แค่ไหนแล้วก็ตาม
.

.
โดยหลายคนเชื่อว่ามันเป็นเพียงเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมาเท่านั้นแหละ ไม่มีทางเป็นจริงขึ้นมาได้หรอก แต่ในทางกลับกันก็มีคนบางกลุ่มที่สนับสนุนความเชื่อว่าในอนาคต เราจะสามารถ “เดินทางข้ามเวลา” ได้จริงๆ และบางทีคนจากโลกอนาคตอาจจะเคยเดินทางย้อนไปในอดีตเป็นที่เรียบร้อยนานแล้ว หรือพวกเค้าบางคนอาจจะแอบใช้ชีวิตปะปนอยู่กับเราในยุคปัจจุบันนี้ก็เป็นไปได้นะ ! หื้มม…อะไรทำให้มีคนเชื่อแบบนั้น ? คำตอบคือก็เพราะ “หลักฐาน” ยังไงล่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา Beauty Hunter จึงขอถือโอกาสนี้รวบรวมหลักฐานที่อาจช่วยยืนยันได้ว่า “นักเดินทางข้ามเวลา” มีอยู่จริงมาให้ชมกัน มาพิสูจน์ไปพร้อมๆกันเลยดีกว่าค่ะ !
.
ฮิปสเตอร์หลงยุค
.

.
มาเริ่มกันที่หลักฐานแรก เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อปี 2010 พิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในประเทศแคนาดา ทำการจัดแสดงภาพถ่ายในอดีตขึ้นตามปกติ แต่ดันมีคนตาดีมองเห็นความแปลกประหลาดในรูปถ่าย ที่ชื่อว่า “Reopening of the South Forks Bridge in Gold Bridge” ซึ่งถูกถ่ายขึ้นที่ British Columbia ช่องราวปี 1940 ซึ่งมองเผินๆก็ดูจะไม่มีอะไร เป็นภาพบรรยากาศของบ้านเมือง และผู้คนในสมัยนั้น
.
แต่ !!! ถ้าสังเกตดีๆทางด้านขวาของภาพจะเห็น “หนุ่มฮิปสเตอร์” ที่ดูยังไงๆ ก็ดูแตกต่างจากพวก ดูหลงยุคมากๆ เอาเป็นว่ามาเดินถนนในสมัยนี้ยังจะดูเข้ากันซะมากกว่า ด้วยเสื้อผ้าที่สวมใส่ แว่นกันแดดสุดแนว หรือทรงผมที่ประหลาดจากแฟชั่นในยุคนั้น ( ในยุคนั้นผู้ชายนิยมสวมหมวกออกนอกบ้าน ) และจุดพีคคือ ในมือของพ่อหนุ่มคนนี้ถือของบางอย่างที่ดูแล้วคล้ายจะเป็นกล้องถ่ายรูป ! ทันทีที่รูปนี้แพร่หลายออกไปในโลกออนไลน์ ก็สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก โดยมีการยืนยันแล้วว่าไม่ใช่ภาพตัดต่อแน่นอน เป็นภาพที่ถูกถ่ายขึ้นมาเมื่อ 70 ปีที่แล้วจริงๆ หลายเสียงเชื่อว่าชายคนนี้คือ “นักเดินทางข้ามเวลา” จากโลกอนาคต แล้วคุณล่ะ คิดว่ายังไงกันบ้าง ?
.
.
สาวช่างเม้าท์ EP.1
.

.
หลักฐานต่อมาเป็นคลิป VDO นี้ถูกบันทึกขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1938 เป็นภาพของกลุ่มสาววัยรุ่น ที่คาดว่าเป็นสาวโรงงาน กำลังเดินออกจากตึกโรงงานอย่างสดใส เริงร่า จุดที่น่าสนใจไม่ได้อยู่ตรงนั้นค่ะ ลองดูกันดีๆสิคะ จะเห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเอาวัตถุบางอย่างมาแนบที่หู แล้วพูดคุยคนเดียวอย่างออกรส ดูแล้วท่าทางคล้ายการพูดคุยโทรศัพท์มือถือในยุคนี้ยังไงอย่างงั้น….แต่เดี๋ยว เอ๊ะ ! สมัยนั้นมีมือถือแล้วหรอคะซิส ???
.
.
.
สาวช่างเม้าท์ EP.2
.

.
อีกคลิปมาจากปี ค.ศ.1928 เป็นฉากหนึ่งในหนังสุดคลาสิคของดาราชื่อดังอย่าง “ชาร์ลี แชปลิน” ในคลิปจะเห็นว่ามีผู้หญิงวัยกลางคนกำลังเดินผ่านเข้ามาในฉาก ท่าทางดูเร่งรีบ แต่ในมือของชีก็มีกริยาอาการคล้ายกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ใกล้เคียงกับหลักฐานในภาพที่แล้ว ! แต่หลายกระแสก็ออกมาโต้แย้งว่าบางทีอุปกรณ์นั้นอาจะเป็น “เครื่องช่วยฟัง” ก็เป็นไปได้นะ อันนี้ก็ยังไม่มีใครฟันธงได้อ่ะค่ะ แต่ก็น่าคิดว่าถ้าเป็นนักเดินทางข้ามเวลาจริง ย้อนเวลากลับไปในยุคนั้น แล้วจะมีสัญญาณโทรศัพท์หรอคะ ค่ายไหนไปทำสัมปทานเอาไว้ ? ( ขนาดปัจจุบันสัญญาณยังขายๆหายๆเลยค่ะ น่าคิด 555 )
.
.
.
ยูสเซอร์ปริศนาจากโลกอนาคต
.

.
เรื่องต่อมาเกิดขึ้นในโลกออนไลน์ค่ะ เรื่องมีอยู่ว่าช่วงปี 2000-2001 ในเว็บบอร์ดหลายแห่ง มียูสเซอร์เว็บบอร์ดที่ใช้ชื่อว่า “John Titor” ออกมาอ้างว่าตนเองเป็นนักเดินทางข้ามเวลา ที่มาจากโลกอนาคต ปี 2036 เดินทางมาเพื่อแก้ไขเหตุการณ์บางอย่าง แต่ขอแอบเเว๊บมาดูหน้าครอบครัวของตัวเองในปี 2000 ก่อนนิดนึง โดยตอนแรกๆผู้คนในโลกออนไลน์ก็คิดว่าเป็นเรื่องล้อกันเล่นแน่นอน จนนายคนนี้ออกมาโพสต์คู่มือการใช้งานของเครื่องข้ามเวลา ทำเอาหลายคนถึงกับอึ้ง เพราะหลายๆอย่างที่เค้าพูดถึงล้วนเป็นหลักการฟิสิกส์ขั้นสูง นอกจากนี้เค้ายังพูดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ที่บางอย่างปัจจุบันก็เกิดขึ้นจริง อย่างเรื่องโรควัวบ้าระบาด แต่บางอย่างก็ผิดไปไกล เช่น ปี 2015 เค้าบอกว่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ทำให้คนล้มตามไปเกือบครึ่งโลก ! แต่สุดท้ายยูสเซอร์นี้ก็หายตัวเข้ากลีบเมฆ ทิ้งทุกอย่างไว้ให้เป็นปริศนาต่อไป
.
ปาปารัซซี่ปริศนา
.

.
ภาพนี้เป็นภาพถ่ายของดาราสาว Sex Bomb สุดเซ็กซี่ตลอดกาลอย่าง “มาริลิน มอนโร” มองเผินๆก็แบบเออ สวยมีเสน่ห์สมคำร่ำลือจริงๆผู้หญิงคนนี้ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นค่ะ มองเห็นอะไรมั้ยคะ ! ก็ซิสคนข้างหลังยังไงล่ะ What are you doing ???? ถ่ายรูปหรอ !? แล้ว ทำไมถึงถ่ายท่านั้น ถ้าเป็นสมัยนี้จะไม่แปลกใจหรอกนะ กับการมองจอ LCD ก่อนถ่ายภาพ แบบกล้องดิจิตอล หรือสมาร์ทโฟนไรงี้ แต่สำหรับเทคโนโลยีสมัยนั้นได้แต่คิดแล้วก็สงสัยค่ะ อีกอย่างอุปกรณ์ที่นางถือ ก็หน้าตาแปลกๆ ไม่ค่อยจะเหมือนกล้องฟิล์มปกติที่คุ้นเคยสักเท่าไหร่ หรือว่าความจริงแล้ว…นางจะไม่ใช่คนยุคนั้นกันแน่นะ ?
.
หลอดไฟยุคโบราณ
.
.
.
เคยสงสัยกันบ้างมั้ยคะ ว่าสิ่งก่อสร้างหรือสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่บางอย่างในยุคโบราณ อย่างพีระมิด หรือสฟริงซ์ในอียิปต์ คนสมัยก่อนเค้าสร้างขึ้นมากันได้อย่างไร จริงอยู่ว่าอาจจะใช้แรงงานจำนวนมหาศาล แต่กลไกบางอย่างก็เรียกได้ว่าล้ำเกินยุคสมัยมากๆ พูดเลยว่ามาสร้างใหม่ในสมัยนี้ยังถือว่าไม่ง่ายเลย จนอดคิดไม่ได้นะคะ ว่าจริงๆแล้วมี “ใคร” ยื่นมือมาช่วยคนสมัยนั้นหรือเปล่านะ ? หลักฐานชวนสงสัยที่ถูกค้นพบในสุสานฟาโรห์แห่งหนึ่ง เป็นภาพจารึกที่แสดงให้เห็นสิ่งของบางอย่างที่ดูแล้วยังไงๆ ก็เหมือนกับหลอดไฟสมัยนี้อย่างน่าตกใจ มีทั้งตัวหลอดไฟ และขั้วไฟฟ้าด้านใน ไหนจะสายไฟอีก ซึ่งภาพนี้ถูกจารึกมาก่อนที่โลกนี้จะมีไฟฟ้าหลายพันปีเชียวนะ มันจะเป็นไปได้มั้ยนะ ว่ามนุษย์ในอนาคตนี่แหละ ย้อนเวลากลับมาช่วยเหลือบรรพบุรุษของตัวเอง ?
.
เซียนหุ้นที่มาจากโลกอนาคต
.

.
เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคม ปี 2004 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา (Security and Exchange Commission) แจ้งความดำเนินคดีกับนายแอนดรูว์ คาร์ลส์ซิน (Andrew Carlssin) วัย 44 ปี เนื่องจากสงสัยว่า นายคนนี้อาจล่วงรู้ข้อมูลความลับภายในของบริษัทต่างๆ ในตลาดหุ้น แล้วนำความรู้นั้นมาใช้แสวงหาผลประโยชน์ เนื่องจากความผิดปกติที่นายคนนี้ สามารถสร้างความร่ำรวยในพอร์ตหุ้นของตัวเองอย่างก้าวกระโดดมหาศาล ภายในเวลาอันรวดเร็ว จากการลงทุนเริ่มต้นเพียง 800 ดอลลาร์ งอกเงยเป็น 350 ล้านดอลลาร์ภายในไม่กี่สัปดาห์ ! หลังถูกจับกุมเขาสารภาพว่าตนเองมาจากโลกอนาคต ย้อนกลับมาในอดีตพร้อมความรู้ข้อมูลทางตลาด และใช้ข้อมูลนั้นเพื่อช้อนซื้อหุ้น โดยตอนแรกเขาตั้งใจจะทำแบบเนียนๆไม่รีบร้อน แต่ด้วยอำนาจของความโลภ ทำให้ถูกจับได้ แต่สุดท้ายเขาก็หายตัวไปอย่างลึกลับระหว่างถูกควบคุมตัวขึ้นศาล….#อีกแล้วสินะ
.
จริงๆแล้วยังไม่หมดเท่านี้นะคะ ยังมีอีกหลายหลักฐานมากค่ะที่ยังเป็นปริศนาอยู่ แต่สุดท้ายนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนแล้วล่ะ ว่าจะเลือก “เชื่อ” หรือ “ไม่เชื่อ” คงไม่มีใครสามารถฟันธงคำตอบที่ถูกต้องได้ แต่ก็น่าคิดอยู่เหมือนกันนะคะ ว่าถ้ามันเป็นเรื่องจริงขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง โลกเราคงมีทั้งเรื่องดีๆเกิดขึ้นมากมาย รวมถึงเรื่องที่วุ่นวายก็คงเกิดขึ้นตามมาอยู่ไม่ใช่น้อย เอาเป็นว่าตอนนี้เราทุกคนเพียงแค่ทำปัจจุบันของเราให้ดีที่สุดก็พอค่ะ ในอนาคตไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนเราจะสามารถย้อนเวลาได้หรือไม่ได้ ถึงตอนนั้นเราก็จะได้ไม่ต้องมีเรื่องมานั่งเสียใจกับอดีต หรือมีข้อผิดพลาดอะไรให้อยากกลับมาแก้ไขยังไงล่ะ จริงมั้ยคะ ? #ฝากไว้ให้คิด : )
.
Photo Credit
www.strangerdimensions.com
www.indiewire.com
www.alamy.com
www.actitudfem.com
www.todomisterio.com
www.gaptekupdate.com
www.pinterest.com
Advertisement
W.















