“รองพื้น”
ของถูกของแพงก็หน้าแน่นได้ไม่แพ้กันย่ะ!
จะแต่งหน้าแล้วออกมาดูดีมันก็ต้องเริ่มที่งานผิวสิคะถึงจะถูก เพราะถ้างานผิวไม่ดีต่อให้แต่งอะไรมันก็จะดูขัดๆ ไม่สมูท ไม่ละมุนตาแต่ว่าจะให้ซื้อ “รองพื้น” แพงๆ บางทีมันก็แอบเสียดายตังค์อยู่หน่อยๆ เพราะฉะนั้น วันนี้ BEAUTY HUNTER เลยไปล่า 5#รองพื้น Drugstore ราคาถูกที่เป็นฝาแฝดมีความคล้าย มีความเหมือนกับ#รองพื้น Hi-End ราคาแพง สวยแรงได้ในราคาประหยัด
เชื่อเลยว่า “รองพื้น” เป็นไอเท็ม Must Have สำหรับสาวๆ ทุกคนอย่างแน่นอนก่อนออกจากบ้านต้องโบก ต้องทา ต้องปาด เพื่อปกปิดร่องอารยธรรมต่างๆ ทั้งรอยสิว รอยดำ รอยแดงให้หน้าเป๊ะกล้าไปสู้หน้ากับผู้คน ซึ่งถ้าพูดถึงรองพื้นก็มีให้เลือกหลายแบบ หลายแบรนด์ตั้งแต่ถูกยันแพง แบบแมตต์แบบดิวอี้หน้าฉ่ำวาว แต่ในวันนี้เราจะมาพูดถึงแฝดคนละฝาของรองพื้นตัวดังที่ราคาเป็นพันแต่มีคู่แฝดราคาแค่หลักร้อย ถ้าอยากรู้ว่าจะมีตัวไหนบ้างตามไปส่องได้เลยค่าาา หึหึ! มีคนเสียตังค์แน่
.
ESTEE LAUDER VS REVLON
แฝดคู่แรกขอเสนอคู่นี้เลยค่ะ รองพื้นตัวดังในตำนาน Estee Lauder Double Wear Stay In Place Makeup ปะทะกับ Revlon ColorStay รองพื้นฝาดำในตำนาน 2 ตัวนี้ความเหมือนคือทาออกมาแล้วให้ Finish Look ที่เป็นแมตต์ กริบ ปกปิดแน่นมากเว่อร์ ต่อให้มีร่องรอยอะไรอยู่บนหน้าพี่แกทั้งคู่ปิดได้หมด ติดแน่น ติดทนดีจริงๆ แต่งหน้าตี 5 ติดยันตี 5 อีกวันไม่ได้โม้ แต่ข้อเสียคือค่อนข้างหนาและหนักหน้า ถ้าในวันธรรมดาอาจจะรู้สึกว่าแน่นไปแต่ถ้าไปออกงานคือปังลื๊มมมม
Estee Lauder ปริมาณ 30 ml. / ราคา 1,950.- | Revlon ปริมาณ 30 ml. / ราคา 539.-
.
CHANEL VS BOURJOIS
มาต่อกันที่แฝดคู่ที่ 2 ล่อกันด้วยของหรู ของแพง Chanel Vitalumiere Aqua ปะทะกับ Bourjois Health Mix หลายคนอาจจะคุ้นๆ กับ Bourjois มาบ้างแล้ว เพราะว่าบล็อกเกอร์ก็ใช้ตัวนี้เยอะมากๆ ลุคที่ได้จะเป็นลุคงานผิวแต่ไม่ได้หนาหนักมากเกินไป ให้ลุคผิวสวย ฉ่ำนิดๆ ดูสวยแบบสุขภาพดีติดทนในระดับนึง สำหรับ 2 ตัวนี้คนที่มีผิวดี-ปานกลาง ไม่ได้มีปัญหาผิวมากเหมาะสุดๆ เพราะว่าไม่ได้ให้ความปกปิดมากนักแต่ในเรื่องของความติดทนก็ถือว่าโอเคเลยค่ะ แถมยังได้ลุคงานผิวสวยละมุนนีมากเว่อร์
Chanel ปริมาณ 30 ml. / ราคา 2,200.- | Bourjois ปริมาณ 30 ml. / ราคา 500-620.-
.
MAC VS MAYBELLINE
มาต่อกันเลยจ้า Mac Studio Fix Fluid ปะทะ Maybelline Fit me พูดเลยว่า 2 ตัวนี้คือมันเวิร์คจริง สำหรับ Mac ตัวนี้คือให้ลุคงานผิวสวย ติดทนมากๆ ถ่ายรูปออกมาแล้วสวย ส่วนของ Maybelline ตัวนี้สาวไทยหวีดหนักมากเพราะว่าเห็นขุ่นแม่โมเมใช้แล้วอวยว่านางดีจริง จนหลายคนอดใจรอไม่ไหวสั่งพรีฯ มาเลยจ้า เพราะว่ายังไม่เข้าไทยแต่พอได้ใช้แล้วคือหลงรักไปไหนไม่รอด มันดีจริงๆ ปกปิด Medium to Full Coverange ให้ได้ทั้งลุคผิวและสามารถบิ้วท์ให้หน้าแน่นได้ ทั้งคู่ให้ Finish Look แบบงานผิวและสามารถบิ้วท์เพิ่มได้ เลิศ!
MAC ปริมาณ 30 ml. / ราคา 1,600.- | Maybelline ปริมาณ 30 ml. / ราคา 450.-
.
NARS VS REVLON
2 ตัวนี้ดังและปังไม่แพ้กัน Nars Sheer Glow ปะทะ Revlon Photoready 2 ตัวนี้ให้ลุคที่ฉ่ำถ่ายรูปออกมาแล้วสวยปังมากเว่อร์ ลุคที่ได้ก็จะมีความวาวนิดๆ งานผิวจัดๆ ไปเลยจ้า ในส่วนของการปกปิดอยู่ในระดับ Medium คือปกปิดปานกลางไม่ได้กริบมาก แต่ให้ลุคผิวสวยความติดทนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ สองตัวนี้เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นผิวดี ร่องรอยไม่ได้เยอะใครที่ชอบถ่ายรูปเป็นสายเซลฟี่ต้องจัดด่วน! เพราะว่าถ่ายรูปออกมาแล้วมันสวยจริงๆ หน้าเล่นกับแสงแบบสุดๆ
Nars ปริมาณ 30 ml. / ราคา 1,900.- | Revlon ปริมาณ 30 ml. / ราคา 480.-
.
GIORGIO ARMANI VS L’OREAL
ปิดจบด้วยตัวสุดท้าย! Giorgio Armani Luminous Silk ปะทะ L’Oreal True Match ฉ่ำมงลงหัวมากค่ะแกกกก 2 ตัวนี้ให้ลุคแมตต์นะ แต่เป็นแมตต์ที่ไม่ดูหนาไม่เป็นเค้กหรือเหมือนโบกปูน แมตต์แต่ยังให้ลุคงานผิว ในส่วนของ L’Oreal สีแอบดรอประหว่างวันเล็กน้อยแต่ไม่ได้ดรอปมาก รวมๆ แล้ว 2 ตัวนี้สูสีกันตัวนึงราคาเบาอีกตัวราคาหนักลองชั่งใจเลือกเอาตามใจชอบเลย แต่พูดเลยว่ามันเลิศทั้งคู่
Giorgio Armani ปริมาณ 30 ml. / ราคา 2,780.- | L’Oreal ปริมาณ 30 ml. / ราคา 399.-
.
